นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือ iLaw กล่าวถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ใช้ "มาตรา 44" ยกเลิกกฎหมายพิเศษยุค คสช.ประมาณ 66 ฉบับ โดยระบุว่า ต้องมองมุมกลับว่า คสช.ควรยกเลิกกฎหมายพิเศษตั้งนานแล้ว ที่สำคัญ ต้องดูกฎหมายพิเศษที่ยังเหลืออยู่ โดยเฉพาะคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 และที่ 13/2559 ที่ให้อำนาจทหารจับกุม, ควบคุมตัว, ค้น ยึด อายัด, หรือควบคุมตัวบุคคลไว้ได้ไม่เกิน 7 วันในค่าทหาร โดยไม่เปิดเผยสถานที่และไม่ให้ทนายความหรือญาติเข้าเยี่ยม อีกทั้งเปิดช่องให้ทหารไม่ต้องรับผิดและตัดอำนาจการตรวจสอบโดยศาลปกครอง หรือที่ใช้วาทกรรม "ปรับทัศนคติ" และที่น่าประหลาดใจคือ ยังคงคำสั่งสำหรับความผิดของผู้ที่ไม่เข้ารายงานตัวต่อ คสช.ด้วย นอกจากนี้ยังคงคำสั่งเกี่ยวกับ AEC ที่งดเว้นกฎหมายผังเมืองและให้ข้ามขั้นตอนการทำ EIA ด้วย
นายยิ่งชีพ มองว่า ผู้มีอำนาจยกเลิกคำสั่งที่เห็นว่าไม่มีความจำเป็นต้องใช้ในการครองอำนาจ อย่างการยกเลิกให้พลเรือนขึ้นศาลทหารให้เข้าสู่กระบวนการในศาลยุติธรรมตามปกติและ ยกเลิกคำสั่งเกี่ยวกับการควบคุมสื่อมวลชน ซึ่งเป็นเรื่องดีและสังคมเรียกร้องมาตลอด แต่ผู้มีอำนาจยังคงคำสั่งที่เห็นว่าจำเป็นต้องใช้ซึ่งชี้ชัดว่ายังต้องการปกครองด้วยบรรยากาศแห่งความกลัว และทำให้รัฐบาลประยุทธ์ 2 ที่มาจากการเลือกตั้ง อาจทำให้สังคมไทยตกอยู่ในสภาพไม่ต่างจาก 5 ปีที่ คสช. หรือรัฐบาลจากการรัฐประหารปกครองมาอยู่นั่นเอง
นายยิ่งชีพ ยืนยันว่า กระบวนการล่ารายชื่อของประชาชนให้มีการยกเลิกคำสั่ง คสช.ที่เหลือกว่ามากกว่า 100 ฉบับ ยังต้องดำเนินการต่อไป หากประธานรัฐสภาไม่บรรจุเป็นวาระ ก็จะเป็นหน้าที่ของพรรคการเมืองฝ่ายค้านที่จะต้องดำเนินการต่อตามบทบาทในสภา
อ่านเพิ่มเติม