ไม่พบผลการค้นหา
'ระวี' เชื่อปรับมาตราสูตรหาร 500 เป็นไปได้ กมธ. เร่งดันเข้าประชุมสภาฯ 2 ก.ค.นี้ ด้าน 'นิกร' ปัดเกมยื้อเวลาให้ กม. ล้ม ไม่มีชนะฟาวล์ ยันต้องจบที่ศาล รธน. ขณะ 'สาธิต' มองหาร 500 ทำวุ่น แต่ต้องเคารพเสียงข้างมาก ยันไม่เห็นด้วย รบ. จ่อคืนชีพบัตรใบเดียว เสียเวลาประเทศ

วันที่ 27 ก.ค. 2565 ที่อาคารรัฐสภา คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ได้นัดหมายการประชุมกรรมาธิการฯ เพิ่มเติมเพื่อทบทวนแก้ไขเนื้อหาบางมาตราให้สอดคล้องกับสูตรคำนวณแบบหาร 500 ในมาตรา 23 หลังจากรัฐสภาได้มีมติให้ถอนร่าง พ.ร.ป.ดังกล่าว ออกจากการประชุมร่วมกันของรัฐสภา เมื่อวานนี้ (27 ก.ค.) และในเวลาประมาณ 09.00 น. กรรมาธิการฯ ได้ทยอยเดินทางเข้ามาร่วมการประชุม

LINE_ALBUM_220727_4.jpg


'ระวี' เชื่อสูตรหาร 500 แก้ได้ ชี้ รธน. อาจพลิกล็อก

นพ.ระวี มาศชมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ในฐานะกรรมาธิการฯ กล่าวก่อนการประชุมกรรมาธิการวันนี้ โดยมองว่าจะใช้เวลาประชุมไม่นาน และทันต่อการยื่นเข้าที่ประชุมร่วมรัฐสภาในวันอังคารที่ 2 ส.ค. และสามารถนำยื่นต่อประธานสภาฯ บรรจุวาระการประชุม เพื่อลงมติวาระ 3 ได้ ในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ก็มีกรรมาธิการฯ จากสำนักกฤษฎีกาเข้าร่วมให้ความเห็นในการปรับแก้กฏหมายด้วย

ระวี.jpg

สำหรับกระแสข่าวที่อาจจะกลับไปหารด้วย 100 นั้น โดยมีการอ้างอิงว่า เป็นความต้องการของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่ง นพ.ระวี ยืนยันว่า ทั้ง อนุทิน ชาญวรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย รวมถึงตัวแทนของพรรคเศรษฐกิจไทยในกรรมาธิการฯ ก็ยืนยันว่าเห็นด้วยกับสูตรหาร 500 ส่วนการกลับมาหารด้วย 100 นั้น โดยส่วนตัวก็เชื่อว่ามีความเป็นไปได้อยู่ แต่คงต้องหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญ หรือ กกต. มีความเห็นออกมาก่อน 

ขณะที่การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่สามารถที่จะคาดเดาได้ หรือหากศาลรัฐธรรมนูญมองสูตรคำนวณ ส.ส. ไม่ว่าจะแบบหาร 100 และ 500 ผิดหลักการในรัฐธรรมนูญ ก็จะต้องกลับไปแก้ไขรัฐธรรมนูญอีกครั้งเพื่อให้แนวทางกลับไปใช้บัตรเลือกตั้ง 1 ใบ 

ส่วนกระแสข่าวที่ออกมาระบุว่า เมื่อวาน (26 ก.ค.) มีแกนนำรัฐบาลเข้าหารือกับ นายกรัฐมนตรี เพื่อหาทางกลับไปใช้การหาร 100 รวมถึงการใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียวนั้น ส่วนตัวยังไม่ทราบรายละเอียด แต่เท่าที่ทราบ พรรคร่วมรัฐบาลก็จะยืนยันแนวทางเดิมคือการหาร 500 อาจจะมีรัฐมนตรีบางคนที่เพิ่งทราบข่าวว่า การหารด้วย 100 จะส่งผลกับ ส.ส.บัญชีรายชื่อ จึงตกใจ แต่รัฐมนตรีส่วนใหญ่ได้ทราบรายละเอียดแล้ว จึงเชื่อว่าแนวทางคงเป็นแบบเดิม


'นิกร' มองไม่มียื้อเวลาให้ ก.ม. ล่ม

ด้าน นิกร จำนง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. กล่าวถึงความพยายามของฝ่ายที่ต้องการเปลี่ยนสูตรคำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ให้กลับมาเป็นแบบหาร 100 โดยระบุว่า วิธีการที่ง่ายที่สุดคือ ดึงเวลาไปจนเลย 180 วัน ซึ่งจะเกิดกรอบเวลาการทำงานของกรรมาธิการ แล้วจะทำให้กฎหมายนั้นตกไปโดยปริยาย เรียกได้ว่าว่าเป็นการ 'ชนะฟาวล์' แต่ นิกร ยืนยันว่า วิธีการนั้นจะไม่เกิดขึ้น แม้ตอนจะเห็นด้วยกับสูตรคำนวณแบบหาร 100 ก็ตาม โดยจะดำเนินการแก้ไขกฏหมายไปจนกว่าจะสุดทางที่ กกต. หรือศาลรัฐธรรมนูญ

LINE_ALBUM_220727_9.jpg

อย่างไรก็ตาม การวินิจฉัยอาจมีปัญหาในชั้นของ กกต. ได้ เนื่องจากในกรรมาธิการฯ เองก็มีสัดส่วนของ กกต. อยู่ ดังนั้น ต้องคุยกันให้กระจ่างว่า ความเห็นของ กกต. ในฐานะกรรมาธิการฯ และในฐานะองค์กร จะขัดแย้งกันเองหรือไม่ โดยเบื้องต้น กกต. ก็ได้เสนอสูตรคำนวณแบบหาร 100 มายัง ครม. เอง ก็เป็นไปได้ว่าจะมีการให้แก้ไขกลับมายังสภา ขึ้นอยู่กับสภาว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ แต่อย่างไรควรดำเนินการให้สุดทาง

ในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนา มีมติว่าจะไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนไปใช้บัตรใบเดียว ทั้งที่การใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ พรรคของเราไม่ได้เปรียบเลย ออกจะเสียเปรียบเสียด้วยซ้ำ แต่เราเห็นว่าเป็นหลักการที่เหมาะสมมาแต่เดิม ดังนั้น พรรคชาติไทยพัฒนาไม่เห็นด้วยกับการแก้ไปเป็นบัตรใบเดียว เพราะจะไม่มีคำตอบให้ประชาชนว่าปรับเพื่ออะไร ส่วนพรรคอื่นจะเห็นว่าอย่างไรตนไม่ทราบ และถ้าจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ต้องดันเรื่องร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ให้จบไปก่อน


'สาธิต' มองหาร 500 ทำวุ่น

สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการฯ เปิดเผยว่า วันนี้ถือเป็นการประชุมอย่างทางการ หลังเมื่อวาน คณะกรรมาธิการ ได้หารือกันในเบื้องต้นแล้ว 

สาธิต ระบุว่าประเด็นที่จะหารือกันวันนี้ เป็นการหาทางออกเรื่องวิธีการคำนวณคำแนน ให้สอดคล้องกับที่สภาได้มีมติเปลี่ยนสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ จากหารด้วย 100 เป็นหารด้วย 500 เพราะหากหารด้วย 100 จะเป็นการหารอย่างตรงไปตรงมา แต่การหารด้วย 500 จะมีเศษที่ต้องตัดทอน ซึ่งจุดนี่ถือเป็นเรื่องยากต่อการคิดวิธีการคำนวณใหม่ 

สาธิต.jpg

อีกทั้งเมื่อมีการเลือกตั้งซ่อม ต้องนำมาคำนวณใหม่ให้สอดคล้องกับจำนวน ส.ส. พึงมี ที่เป็นผลพวงจากสูตรหาร 500 ซึ่งปัญหาความยุ่งยากที่เกิดขึ้น สาธิต ย้ำว่าเป็นผลมาจากการปรับแก้เป็นสูตรหาร 500 ซึ่งกลับทางกับเสียงข้างมากของกรรมาธิการฯ จนกลายเป็นเสียงข้างน้อย แต่เมื่อผลออกมาเเบบนี้ ก็ต้องไปปรับแก้มาตราอื่นๆ ให้สอดคล้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการใช้จริง 

แต่หาก กกต. ไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายฉบับนี้ ก็ต้องนำกลับมาแก้ไขใหม่ ขึ้นอยู่กับเสียงข้างมาก แต่ส่วนตัวขอย้ำว่า ไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนสูตรคำนวณจากหาร 100 เป็นหาร 500 

“ตัวผมไม่ได้เห็นด้วย ผมเป็นเสียงข้างน้อย วันที่เป็นเสียงข้างมาก คือ 100 พอมาวันนี้ผมเป็นเสียงข้างน้อย แต่ก็ต้องเคารพเสียงข้างมาก”

เมื่อถามว่ามีโอกาสกลับไปใช้สูตรหาร 100 หรือไม่ หลังมีกระแสข่าวว่า พรรคร่วมรัฐบาลต้องการกลับไปใช้สูตร หาร 100 และได้นำเรื่องนี้เสนอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา สาธิต ระบุว่า ตนไม่ได้อยู่ในวงหารือดังกล่าวด้วย และส่วนตัวก็ไม่เห็นด้วยกับการปรับแก้เช่นนั้น

สาธิต.jpg

“ผมอยู่นอกความถี่นั้น แต่ว่าในหน้าที่ของผมต้องทำให้ได้หาร 100 ตามความเห็นของเสียงคณะกรรมาธิการฯ เสียงข้างมากเดิม เพราะมันถูกต้องตามรัฐธรรมนูญที่เเก้ไขมาแล้ว ใครจะอยากได้อะไรผมไม่รู้ หน้าที่ของกรรมาธิการ ควรจะทำให้เป็นหาร 100 ตามรัฐธรรมนูญเท่านั้นเอง ง่าย”

ส่วนมีความเป็นไปได้ที่จะถึงขั้นกลับไปแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้กลับเป็นบัตรใบเดียวหรือไม่ สาธิต ตอบว่า หากเป็นแบบนั้นจริง ตนรับไม่ได้ และจะคัดค้านเป็นคนแรก เพราะเราแก้ไขรัฐธรรมนูญกลับมาเป็นบัตร 2 ใบเเล้ว วันนี้คือการตัดสินว่าจะใช้สูตรหาร 100 หรือ 500 แต่ถ้ากลับไปที่เดิม มองว่าเสียเวลาประเทศ เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า