กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ระบุสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือดีขึ้นต่อเนื่องทั้ง 17 จังหวัด พื้นที่ภาคเหนือตอนบนที่ประสบปัญหาไฟป่าและหมอกควันอย่างรุนแรงก่อนหน้านี้ ขณะนี้ไม่พบจุดความร้อนสะสม หรือ Hotspot ในพื้นที่ป่าทุกจังหวัดแล้ว ส่งผลให้คุณภาพอากาศอยู่ในระดับดีมาก ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ลดลง มีเพียงแค่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ยังเกินค่ามาตรฐานเล็กน้อย
ทั้งนี้เป็นผลจากการออกปฏิบัติการดับไฟป่าและการเฝ้าระวังที่เข้มงวดอย่างต่อเนื่อง โดยเจ้าหน้าที่ชุดดับไฟ ชุดเฝ้าระวังลาดตระเวน ชุดไฟป่าหมู่บ้าน และเครือข่ายไฟป่า ระดมกำลังดูแลพื้นที่รับผิดชอบในเขตป่าอนุรักษ์ได้รวมกว่า 7,430 ครั้ง พื้นที่ 171,638 ไร่ และในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ พื้นที่กว่า 63,336 ไร่ ขณะที่การจับกุมดำเนินคดีเผาป่า ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม – 26 เมษายน 2563 ดำเนินคดีไปแล้วทั้งสิ้น 1,146 คดี จับกุมผู้ต้องหาได้ 48 ราย
ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดภาคเหนือ ได้หารือเตรียมพร้อมในการฟื้นฟูพื้นที่ป่าที่ได้รับความเสียหายจากไฟป่า โดยมอบหมายให้กรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รับผิดชอบด้านการฟื้นฟู โดยมีหมู่บ้านเครือข่ายความร่วมมือในการควบคุมไฟป่า 802 หมู่บ้าน ช่วยสนับสนุนร่วมฟื้นฟูป่าด้วย โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะเตรียมกล้าไม้อ66 ล้านกล้า ในการใช้ปลูกฟื้นฟูอแบ่งเป็นกรมป่าไม้ จำนวน 50 ล้านกล้า และกรมอุทยานแห่งชาติฯ จำนวน 16 ล้านกล้า
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า พื้นที่ป่าที่ถูกไฟไหม้เจ้าหน้าที่จะเฝ้าระวังตรวจสอบไม่ให้มีการบุกรุกเข้าไปใช้ประโยชน์ โดยจะประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อกำหนดแนวทางการฟื้นฟูพื้นที่ป่าตามหลักวิชาการ โดยระยะแรกจะปลูกไม้เบิกนำที่มีการเจริญเติบโตเร็วช่วยปรับสภาพพื้นที่ก่อน จากนั้นจะเริ่มปลูกไม้โครงสร้างพื้นถิ่นตามลงไป รวมทั้งการสร้างความส่วนร่วมภาคประชาชนเป็นกำลังสำคัญในการฟื้นฟูป่า สำหรับระยะนี้ยังต้องเฝ้าระวังไฟป่า เนื่องจากกำลังจะเข้าสู่ฤดูกาลเพาะปลูก และพี่น้องประชาชนจะเริ่มทยอยเผาเศษวัสดุทางการเกษตรอีกครั้ง
