กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เตรียมจัดงานมหกรรมการค้าชายแดนใต้ ระหว่างวันที่ 26 - 28 เมษายน ที่จะถึงนี้ ณ สนามกีฬามหาราช อำเภอสุไหง-โกลก จังหวัดนราธิวาส เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ 3 จังหวัดชายแดนใต้ คือ นราธิวาส ยะลา และปัตตานีและพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการการไทยเพื่อบุกตลาดชายแดนมาเลเซีย
นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ทีมกรมการค้าต่างประเทศ ร่วมมือกับหน่วยงานจังหวัดนราธิวาส และสถานกงสุลไทย ณ เมืองโกตาบารู รัฐกลันตัน รวมทั้งภาคราชการมาเลเซีย เช่น หน่วยงานส่งเสริมการลงทุน (MATRADE MIDA) หน่วยงานพาณิชย์ รัฐบาลรัฐกลันตัน (MITI) เพื่อมุ่งขยายมูลค่าการค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย กระตุ้นเศรษฐกิจการค้า และพัฒนาผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ให้มีศักยภาพทั้งในประเทศและต่างประเทศ
การดำเนินการครั้งนี้ ยังเป็นการตอบโจทย์แผนงานพัฒนาเศรษฐกิจ 3 ฝ่าย ได้แก่ อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย ( Indonesia - Malaysia - Thailand Growth Triangle : IMT-GT ) ในการร่วมกันพัฒนาอนุภูมิภาค IMT-GT คือ ภาคใต้ของไทย ภาคเหนือของมาเลเซีย และเกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย
"จังหวัดที่มีชายแดนติดกับเพื่อนบ้านเป็นจังหวัดที่โชคดี แต่เราต้องคว้าโอกาสไว้ด้วย" นายอดุลย์ กล่าว
ความโดดเด่น-ศักยภาพ ของนราธิวาส
แม้ประตูการค้าชายแดนด้านจังหวัดนราธิวาสจะมีมูลค่าไม่มากนัก เมื่อเทียบกับด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ จังหวัดสงขลา ที่มีมูลค่าสูงกว่า 570,000 ล้านบาทต่อปี แต่ตัวเลขการค้าราว 3,600 ล้านบาทต่อปีของจังหวัดนราธิวาส ทำให้ภาครัฐเล็งเห็นถึงศักยภาพในการพัฒนาและต่อยอดในอนาคต
จังหวัดนราธิวาสเป็นหนึ่งในสองจังหวัดภาคใต้ ที่รัฐกำหนดพื้นที่ให้เป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ โดยมีอุตสาหกรรมเป้าหมาย คือ เกษตรแปรรูป สินค้า/บริการฮาลาล และโลจิสติกส์ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยังท่าเรือน้ำลึกได้