ปัจจุบัน ยังไม่มีการแถลงยืนยันอย่างเป็นทางการจากทางฝั่งสหรัฐฯ และไต้หวันเองว่า เพโลซีจะเดินทางเยือนไต้หวันอย่างเป็นทางการหรือไม่ อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวไม่เปิดเผยชื่อระบุว่า ประธานรัฐสภาสหรัฐฯ กำลังมุ่งหน้าเดินทางตรงมาจากมาเลเซีย เพื่อลงจอดเครื่องบินที่ไต้หวันในช่วงคืนนี้
เพโลซีจะกลายมาเป็นผู้นำระดับสูงของสหรัฐฯ อันดับที่สามที่มาจากการเลือกตั้ง รองจากประธานาธิบดี และรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เดินทางเยือนไต้หวันในรอบ 25 ปี หากเพโลซีกำลังมุ่งหน้าเดินทางตรงมายังไต้หวันจริง
มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ออกแถลงอีกว่า “เรากำลังพิจารณาความเป็นไปได้ในการเดินทางเยือนไต้หวันโดยเพโลซี ในฐานะอีกการกระทำอันเป็นการยั่วยุโดยสหรัฐฯ เพื่อหวังผลไปสู่การกดดันปักกิ่งเพิ่มเติม” พร้อมกันนี้ ซาคาโรวาระบุเสริมว่า “รัสเซียยืนยันในหลักการ ‘จีนเดียว’ และต่อต้านการเป็นเอกราชของเกาะดังกล่าวในทุกรูปแบบ”
นอกจากโฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียแล้ว ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกประจำทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย ได้ออกมาแถลงถึงการคาดการณ์ว่าประธานรัฐสภาสหรัฐฯ กำลังจะเดินทางเยือนไต้หวันว่า “เราไม่สามารถพูดได้อย่างมั่นใจว่าเธอจะไปหรือไม่ไปถึงที่นั่น (ไต้หวัน) แต่ทุกสิ่งในการเดินทางครั้งนี้ และโอกาสความเป็นไปได้ในการเดินทางเยือนไต้หวัน เป็นการยั่วยุโดยแท้”
ก่อนหน้านั้น จากการถือสายโทรศัพท์คุยกันระหว่าง โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน กว่า 2 ชั่วโมง สีได้ย้ำเตือนต่อไบเดนถึงประเด็น “บูรณภาพแห่งดินแดน” ของจีน พร้อมกล่าวต่อประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่า “บรรดาผู้ที่เล่นกับไฟจะต้องพินาศด้วยไฟนั้น” ทั้งนี้ ไบเดนย้ำว่าสหรัฐฯ ยึดถือนโยบายจีนเดียว นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่ารัฐบาลสหรัฐฯ พยายามห้ามเตือนไม่ให้เพโลซีเดินทางเยือนไต้หวันอย่างเป็นทางการด้วย
ปัจจุบัน สหรัฐฯ ไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวันอย่างเป็นทางการ นับตั้งแต่สหรัฐฯ หันไปรับรองรัฐบาลจีนคอมมิวนิสต์เมื่อปี 2522 แทนรัฐบาลก๊กมินตั๋ง แต่สหรัฐฯ เองยังคงรักษาความสัมพันธ์ในฐานะการเป็นมิตรที่ดีต่อกัน พร้อมกันกับการส่งมอบอาวุธให้กับไต้หวัน เพื่อใช่ในการป้องกันตนเองจากการรุกราน โดยเฉพาะภัยคุกคามจากจีน ตามข้อตกลงที่สหรัฐฯ เคยมีต่อไต้หวันไว้
ก่อนหน้านี้ เพโลซีมีแผนในการเดินทางเยือนไต้หวันเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี แผนการเดินทางดังกล่าวถูกเลื่อนออกไป หลังจากที่เพโลซีถูกตรวจพบว่าติดโควิด-19 ทั้งนี้ ในช่วงก่อนการเดินทาง เพโลซีเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า มันมี “ความสำคัญสำหรับเรามาก ในการแสดงการให้การสนับสนุนแก่ไต้หวัน”
ในทางกลับกัน รัฐสภาสหรัฐฯ จากทั้งสองพรรคของเดโมแครตและรีพับลิกัน ต่างให้การสนับสนุนไต้หวันกันไปในทิศทางเดียวกัน โดยเพโลซีในฐานะประธานรัฐสภาที่มาจากพรรคเดโมแครต ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ผู้มีอำนาจของจีนมาโดยตลอด โดยเฉพาะประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน เพโลซีเองยังเคยเดินทางเยือนจัตุรัสเทียนอันเหมิน สถานที่ที่รัฐบาลจีนคอมมิวนิสต์ทำการสังหารมวลชนเรียกร้องประชาธิปไตยอย่างโหดเหี้ยมในปี 2532
อย่างไรก็ดี ไบเดนในฐานะประมุขฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ ไม่มีอำนาจใดๆ ในการกำหนดกฎเกณฑ์ต่อประธานรัฐสภาสหรัฐฯ อย่างเพโลซี ซึ่งเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติของประเทศ ในการเดินทางเยือนไต้หวัน โดยไบเดนได้ออกมาให้ความเห็นว่า การเดินทางเยือนไต้หวันของเพโลซีไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก ทั้งนี้ หากเพโลซีเดินทางเยือนไต้หวัน เธอจะเป็นผู้นำระดับสูงของสหรัฐฯ คนที่สอง รองจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เดือนทางเยือนไต้หวันอย่างเป็นทางการ นับตั้งแต่ปี 2540
ที่มา:
https://www.reuters.com/world/kremlin-warns-us-over-provocative-pelosi-visit-taiwan-2022-08-02/