เฟซบุ๊กแถลงผลดำเนินงานล่าสุด พบว่า ทำสถิติที่ 6.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 2.15 แสนล้านบาทในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2561 ถือเป็นการดีดตัวสูงขึ้นถึงร้อยละ 61 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า และยังทะลุเป้าการคาดการณ์ของนักลงทุนในตลาดหุ้น
โดยรายรับของเฟซบุ๊กในไตรมาส 4/2561 เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 30 มาแตะมูลค่า 1.69 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 5.28 แสนล้านบาท
ขณะที่ตัวเลขผู้ใช้งานเฟซบุ๊กก็น่าประทับใจไม่แพ้กัน โดยตอนนี้มีผู้ใช้งานเฟซบุ๊กทั้งหมด 1.52 พันล้านคนทั่วโลก ที่ใช้งานเฟซบุ๊กทุกวัน ขณะที่ประมาณ 2.32 พันล้านคนใช้งานเฟซบุ๊กเป็นประจำทุกเดือน ตัวเลขผู้ใช้งานทั้งสองประเภทเพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 9 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
พื้นที่โซเชียลอื่นๆ ที่เฟซบุ๊กเป็นเจ้าของก็ไม่น้อยหน้าไปกว่ากัน เฟซบุ๊กประมาณการตัวเลขผู้ใช้งาน อินสตาแกรม วอทส์แอปป์ และเมสเซนเจอร์ ไว้ที่ 2.7 พันล้านคนต่อเดือน นั่นหมายความว่าประชากร 2 พันล้านคนทั่วโลกใช้งานแอปพลิเคชั่นใดแอปพลิเคชันหนึ่งทุกวัน
ผลประกอบการที่น่าประทับใจนี้ปิดภาพความวุ่นวายจากข่าวฉาวของเฟซบุ๊กตลอดทั้งปี 2561 ได้อย่างแยบยล แม้ข่าวฉาวมีไม่หยุดหย่อนจะสร้างความกังวลใจให้กับผู้ใช้งานเฟสบุ๊กไม่น้อย แต่ผลประกอบการชี้ให้เห็นว่าความกังวลอาจจะหายไปแล้ว
"ด้วยผลประกอบการนี้ เฟซบุ๊กแสดงให้เห็นชัดเจนว่า อุปสรรคในปี 2561 ไม่ได้มีผลยั่งยืนจนมากระทบรายได้และยอดผู้ใช้งาน" เดบรา อาโฮ วิลเลียมสัน ผู้อำนวยการนักวิเคราะห์ที่อีมาร์เก็ตเทอร์ (eMarketer) กล่าว
ขณะที่ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอเฟซบุ๊ก กล่าวว่า มีอีกมากที่เราจะต้องทำ แต่ผมภูมิใจกับงานที่เราทำซึ่งเอาชนะปัญหาต่างๆ ได้
สำหรับอนาคตนั้น ดูเหมือนว่าเฟซบุ๊กกำลังวางแผน "สร้างหนทางใหม่ๆ" โดยมาร์คกล่าวว่าเขามีความคิดในการเพิ่มกิจกรรมทางการค้าบนอินสตแกรม ซึ่งเป็นการเพิ่มรายได้ของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญบนแพลตฟอร์มที่มีความน่าเชื่อถือ และยังมีโครงการที่จะพัฒนาแอปพลิเคชันอื่นๆ ภายใต้เฟซบุ๊กอย่าง สตอรี่ (Stories)
ล่าสุดหุ้นของเฟซบุ๊กพุ่งสูงขึ้นกว่าร้อยละ 10 หลังมีการประกาศผลกำไรตกลงไปกว่า 1 ใน 3 จากช่วงพีคสูงสุดในเดือนกรกฎาคม 2561
อย่างไรก็ตาม แม้ผลประกอบการจะเป็นที่น่าพอใจ แต่ข่าวฉาวก็ไม่ได้หายไปไหน ก่อนจะมีการประกาศผลกำไรหนึ่งวัน เฟซบุ๊กถูกวิจารณ์ว่าใช้แอปพลิเคชันด้านข้อมูลทางการตลาดที่มีการวิพากวิจารณ์กันถึงความถูกต้องในการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการใช้สมาร์ทโฟนของผู้คน
อ้างอิง; CNN
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :