ไม่พบผลการค้นหา
อดีตนายกฯ ทักษิณ ระบุผ่านสื่อต่างประเทศว่า รัฐบาลทหารไทยกำลังทำลายระบบทั้งหมดเพื่อให้ตัวเองได้อยู่ในอำนาจต่อไป พร้อมย้ำว่าการเลือกในไทยครั้งนี้ 'ถูกโกง' และ กกต.ควรได้ใบแดงเสียเอง

เว็บไซต์เดอะนิวยอร์กไทม์ สื่อของสหรัฐฯ เผยแพร่บทความ The Election in Thailand Was Rigged เขียนโดยอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ซึ่งระบุว่า ตนเองทราบมาตลอดว่ารัฐบาลทหารต้องการทำทุกอย่างเพื่อสืบทอดอำนาจต่อไป แต่ไม่คาดคิดว่าจะไปไกลถึงการแทรกแซงการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แม้จะเคยเห็นมาตรฐานการทำงานของรัฐบาลนี้มาแล้ว ก็ยังอดแปลกใจไม่ได้อยู่ดี และไม่คิดว่าตนเองจะเป็นคนไทยคนเดียวที่คิดเช่นนี้

คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หยุดการนับคะแนนช่วงค่ำวันอาทิตย์ และขอเลื่อนการประกาศผลนับคะแนน (อย่างไม่เป็นทางการ) ออกไปเป็นช่วงบ่ายวันจันทร์นี้ (25 มี.ค.) แต่พอถึงช่วงค่ำ ช่วงเดียวกับที่เริ่มเขียนบทความนี้ กกต.ก็ยังไม่เปิดเผยผลนับคะแนนเบื้องต้น และในอดีตของไทยที่ผ่านมา ไม่เคยมีการประกาศผลนับคะแนนที่ล่าช้าขนาดนี้มาก่อน เห็นได้ชัดว่ารัฐบาลทหารนั้นกำลังหวาดกลัว

ในบางเขต บัตรเลือกตั้งมีจำนวนมากว่าผู้มาใช้สิทธิ ขณะที่บางเขต ผู้มาใช้สิทธิมีจำนวนสูงถึง 200 เปอร์เซ็นต์ และอีกบางเขต กกต.ประกาศผลไม่ตรงกับที่นับคะแนนกันที่หน่วยเลือกตั้ง และบัตรเสียมีจำนวนมากจนน่าสงสัย ทั้งยังมีรายงานด้วยว่าบัตรเลือกตั้งในบางเขตทำเครื่องหมายผิดช่อง แต่ก็ยังถูกนับรวมเป็นคะแนนให้กับพรรคพลังประชารัฐ พรรคซึ่งเป็นตัวแทนของรัฐบาลทหาร

กกต.มีอำนาจในการลงโทษหรือให้ใบแดงแก่ผู้สมัครที่กระทำผิดกฎการเลือกตั้งในครั้งนี้ และ กกต.ควรจะให้ใบแดงตัวเองด้วย

แม้ว่าข้อผิดพลาดเกี่ยวกับการเลือกตั้งบางประเด็นจะถูกแก้ไขแล้ว แต่การทำงานของรัฐบาลทหารเป็นอย่างไรก็เป็นที่รู้กันอยู่ จะไม่ให้สงสัยว่าไม่มีการแทรกแซงเกิดขึ้นเลยก็คงเป็นไปไม่ได้ 

กกต.ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลทหาร และพวกเขายังแทรกแซงการทำงานขององค์กรที่ควรจะเป็นอิสระผ่านการเขียนรัฐธรรมนูญที่ไม่ตรงไปตรงมา เพื่อที่จะตอบสนองความต้องการของตนเอง ประเทศไทยแทบจะไม่เคยแก้ไขกฎหมายอาญาหรือแม้แต่กฎหมายทะเบียนรถยนต์ แต่กลับเขียนรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่อยู่บ่อยๆ 

กฎเกณฑ์การเลือกตั้งที่ถูกปรับแก้ทำให้พรรคการเมืองขนาดใหญ่อ่อนแอ การบังคับใช้กฎเกณฑ์แบบสองมาตรฐานเกิดขึ้นกับกรณีที่ต้องวินิจฉัยว่าใครเป็นผู้มีคุณสมบัติจะเป็นนายกรัฐมนตรี และใครที่ควรถูกเรียกว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองถูกปฏิบัติราวกับเป็นศัตรู

ไม่ว่าผู้นำรัฐบาลทหารจะปล่อยให้พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ พวกเขาก็จะหาทางที่จะอยู่ในอำนาจต่อไปอยู่ดี เพราะพวกเขาไร้ซึ่งความละอายและต้องการสืบทอดอำนาจต่อไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หนทางที่เป็นไปได้หลังจากนี้ คือ พวกเขาจะพยายามดูด ส.ส.จากพรรคขนาดเล็กไปเข้าร่วม การเลือกตั้งครั้งนี้จึงมีราคาแพงมาก

พรรคฝ่ายประชาธิปไตยจะถูกยุบหรือไม่ ใครจะรู้? ผู้นำรัฐบาลทหารสามารถทำอะไรก็ได้ตามที่ตัวเองต้องการ เมื่อตอนที่ประธาน กกต.ถูกถามเรื่องผลการเลือกตั้งเมื่อค่ำวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เขาตอบว่า ไม่มีเครื่องคิดเลขอยู่กับตัว ซึ่งก็เดาได้ว่าเขาแค่ประชด แต่ก็ทำให้เห็นได้ชัดเจนว่า เขาจำเป็นต้องหยุดนับคะแนน หรืออาจจะถูกใครบังคับให้หยุดเผยแพร่ผลการนับคะแนน

พรรคพลังประชารัฐอาจจะมีสิทธิเลือกนายกรัฐมนตรีคนต่อไปโดยไม่จำเป็นต้องได้เสียงข้างมากในสภา แต่การที่ไม่มีเสียงข้างมากในสภา ก็จะเป็นรัฐบาลที่ขาดเสถียรภาพ 

สิ่งที่พูดถึงจึงไม่ใช่เรื่องว่าพรรคไหนจะชนะหรือว่าแพ้เลือกตั้ง แต่ต้องพูดว่าประเทศไทยกำลังสูญเสีย คนในรัฐบาลมาอยู่ในตำแหน่งแล้วก็ไป ขณะที่ระบบต่างๆ ยังคงอยู่ แต่รัฐบาลทหารชุดนี้กำลังพยายามทำลายระบบทุกอย่างทิ้งเพียงเพื่อให้คนของตัวเองได้อยู่ในอำนาจต่อไป

เมื่อกฎกติกาและผู้ทำหน้าที่ตัดสินไม่มีความเป็นธรรม ผลที่ออกมาก็จะไม่ได้รับการยอมรับ ไม่ว่าจะเป็นจากคนไทยด้วยกันหรือประชาคมโลก เศรษฐกิจของไทยนั้นอยู่ในภาวะอ่อนแอ และต้องการการลงทุนจากต่างชาติ เป็นผลของการบริหารอย่างผิดๆ ของรัฐบาลทหาร แต่เศรษฐกิจโลกเองก็กำลังเผชิญกับสภาวะผันผวน รัฐบาลที่ไม่ได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจะรับมือกับความท้าทายนี้ได้อย่างไร

เหนือสิ่งอื่นใด ประเทศไทยควรจะได้รัฐบาลที่สะท้อนความต้องการของประชาชน ไม่ใช่ความต้องการของรัฐบาลทหาร ห้วงเวลานี้เป็นความเลวร้ายและน่าเศร้าที่เกิดขึ้นกับประเทศของผม