ไม่พบผลการค้นหา
ผู้สนับสนุนปราโบโว ซูเบียนโตออกมาประท้วงผลการเลือกตั้งอินโดนีเซีย หลังจากที่กกต.ประกาศผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการว่า "โจโก วิโดโด" ชนะการเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีอีกสมัย

นายกเทศมนตรีกรุงจาการ์ตาของอินโดนีซีย เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิต 6 รายและบาดเจ็บอีกมากกว่า 200 ราย หลังเกิดเหตุจลาจลเกิดขึ้นหลังจากที่ผู้สนับสนุนปราโบโว ซูเบียนโต อดีตนายพลที่มีความใกล้ชิดกับอดีตเผด็จการซูฮาร์โต ปะทะกับเจ้าหน้าที่ความมั่นคงและจุดไฟเผาหอพักและยานพาหนะของตำรวจ เพื่อประท้วงผลการเลือกตั้งที่คณะกรรมการการเลือกตั้งอินโดนีเซียประกาศว่า โจโก วิโดโด ชนะการเลือกตั้งไปด้วยคะแนนเสียงร้อยละ 55.5 ได้เป็นประธานาธิบดีอินโดนีเซียต่ออีก 1 สมัย

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติของอินโดนีเซียยังเปิดเผยว่าได้จับกุม "ผู้ก่อกวนทางการเมือง" ให้เกิดความรุนแรงทั้งสิ้น 20 คน ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของอินโดนีเซียได้สั่งบล็อกโซเชียลมีเดียในบางพื้นที่ โดยเฉพาะในกรุงจาการ์ตา เพื่อป้องกันการเผยแพร่ข่าวปลอม

โรงพยาบาลต่างๆ กำลังชันสูตรสาเหตุของการเสียชีวิตของผู้ประท้วง ขณะที่โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติของอินโดนีเซียระบุว่า เจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนสอบสวนสาเหตุของการเสียชีวิตทั้งหมด โดยบางคนมีบาดแผลจากกระสุนปืน และตำรวจจะยังไม่ตัดความเป็นได้ว่าอาจมี 'ผู้ก่อกวนมือที่สาม'

อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอินโดนีเซียย้ำว่า เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงที่ประจำการอยู่ทั่วเมืองนับตั้งแต่ที่กกต.ประกาศผลการเลือกตั้งไม่มีกระสุนจริงอยู่กับตัว ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาและปืนฉีดน้ำในการตอบโต้ผู้ประท้วงที่ขว้างปาหินและระเบิดขวด

แพ้เลือกตั้ง แต่ไม่ยอมรับผล

หลัง กกต. นับคะแนนเลือกตั้งเสร็จสิ้นแล้ว อาซิส สุเบกตี ตัวแทนจากทีมหาเสียงของปราโบโวได้ปฏิเสธที่จะลงนามเห็นชอบกับผลการเลือกตั้ง พร้อมระบุว่า พวกเขาจะไม่ยอมแพ้ให้กับความอยุติธรรม การทุจริต การโกหก และการกระทำใดๆ ที่ขัดกับหลักการประชาธิปไตย ด้านซุฟมี ดาสโก อาหมัด ผู้อำนวยการด้านกฎหมายของทีมหาเสียงของปราโบโว เปิดเผยว่า ปราโบโวจะยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาผลการเลือกตั้งครั้งนี้

ก่อนหน้านี้ ปราโบโวเคยกล่าวหาว่ามีการ “โกงการเลือกตั้งอย่างกว้างขวาง” และเตือนว่าอาจนำมวลชนลงท้องถนนประท้วงการทุจริตเลือกตั้ง แต่จนถึงขณะนี้ ปราโบโวยังไม่ออกมาเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนออกมาประท้วงผลการเลือกตั้งแต่อย่างใด มีเพียงการเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนอยู่ในความสงบ ไม่ใช้ความรุนแรง


ที่มา : The Guardian, BBC