เดอะวอลสตรีทเจอร์นัล (The Wall Street Journal) รายงานว่า เวอร์ไรซอนคอมมิวนิเคชันส์ (Verizon Communications) ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ในอเมริกา เล็งขายทัมเบลอร์ (Tumblr) แพล็ตฟอร์มบล็อก (blog) กึ่งโซเชียลมีเดีย หลังจากได้กิจการนี้พ่วงมาจากการซื้อยาฮู (Yahoo!) เมื่อปี 2017 เพื่อลดต้นทุน

แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยตัวเลขว่าเวอร์ไรซอนหวังจะขายทัมเบลอร์ที่ราคาเท่าไร แต่คาดว่าราคาคงไม่สูงถึง 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นราคาที่ยาฮูซื้อทัมเบลอร์มาเมื่อปี 2013 โดยสามปีให้หลัง ยาฮูระบุว่ามูลค่าของทัมเบลอร์ลดลงถึง 230 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเดวิด คาร์ป (David Karp) ผู้ก่อตั้งทัมเบลอร์ก็ได้ถอนออกไปเมื่อกิจการถูกซื้อไปโดยเวอร์ไรซอนในปี 2017

สำหรับชาวไทย ทัมเบลอร์อาจไม่เป็นที่รู้จักเท่าเฟซบุ๊กหรือทวิตเตอร์ แต่ในต่างประเทศนั้น ทัมเบลอร์ เป็นพล็อตฟอร์มที่รวมทั้งฟังก์ชันของโซเชียลมีเดียและบล็อกไว้ด้วยกัน เป็นชุมชนของผู้สร้างสรรค์งานศิลปะแขนงต่างๆ บนโลกออนไลน์ ทั้งกราฟฟิกดีไซเนอร์ นักวาด นักเขียน และนักทำเกม ปัจจุบันทัมเบลอร์มีบล็อกจำนวน 465.4 ล้านบล็อก และมีโพสต์ 21.6 ล้าน โพสต์ต่อวัน

ทว่าในอีกมุมหนึ่ง ทัมเบลอร์ก็เคยเป็นฐานที่มั่นของบล็อกเกอร์สายนู้ดเช่นกัน ทั้งภาพและวิดีโอโป๊เปลือย รวมไปถึงงานศิลปะสำหรับผู้ใหญ่ เนื่องจากไม่มีนโยบายห้ามเนื้อหาลามกอนาจาร กระทั่งเคยเกิดเหตุถูกถอนแอปฯ ออกจากแอปสโตร์ (App Store) บนไอโอเอส (iOS) เมื่อปีก่อน และทัมเบลอร์ได้ปรับระเบียบใหม่ เพื่อแบนเนื้อหาลามกอนาจารทั้งหมด ส่งผลให้ในเดือนมีนาคม 2019 สามเดือนภายหลังการแบนเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ในเดือนธันวาคม 2018 ทัมเบลอร์มียอดผู้เข้าชมตกลงเกือบ 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้ทัมเบลอร์ไม่ทำกำไรเท่าที่คาดไว้ และทำให้การรักษาทัมเบลอร์ไว้ไม่ดึงดูดใจสำหรับเวอร์ไรซอนอีกต่อไป

ขณะเดียวกัน ไม่ถึงหนึ่งวันหลังเวอร์ไรซอนประกาศเจตนาจะขายทัมเบลอร์ คอรีย์ ไพรซ์ (Corey Price) รองประธานของพอร์นฮับ (Pornhub) เว็บไซต์ผู้ให้บริการสื่อลามกออนไลน์รายใหญ่ ก็ได้อีเมลไปยังบัซฟีดนิวซ์ (BuzzFeed News) ว่าพอร์นฮับมีความสนใจอย่างยิ่งที่จะซื้อทัมเบลอร์ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นเครือข่ายชุมชนออนไลน์ของผู้ผลิตและผู้ชมเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ ก่อนจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเมื่อเดือนธันวาคม โดยย้ำจุดยืนชัดว่าหากพอร์นฮับได้เข้าเป็นเจ้าของ พวกเขาจะปลดแบนและนำเนื้อหาดังกล่าวกลับมา

"ชัดเจนมากว่ามีความเข้ากันได้ระหว่างสองแบรนด์ และมีความชัดเจนถึงคุณค่าที่พอร์นฮับจะได้รับจากทัมเบลอร์ เราสนใจอย่างยิ่งที่จะเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มนี้ และหวังมากๆ ว่าวันหนึ่งเราจะพลิกฟื้นเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ในทัมเบลอร์ให้กลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง" ไพรซ์ กล่าว

ที่มา: Business Insider, BuzzFeed News, Tech Crunch