นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ปะกับประชาชนในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พบว่า ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำกำลังซ้ำเติมความเดือดร้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาปาล์มน้ำมัน ลดเหลือกิโลกรัม (ก.ก.) ละ 2.50 บาท ราคายางพารา น้ำยางสด ก.ก.ละ 35 บาท แม้รัฐบาลมีนโยบายประกันรายได้เกษตรกรที่ราคาปาล์มน้ำมัน ก.ก.ละ 4 บาท ยางพาราแผ่นดิบชั้น 3 ก.ก.ละ 60 บาท แต่เกษตรกรต้องการขายในราคาที่เป็นจริงตามท้องตลาด
นั่นเท่ากับราคาประกันจากรัฐบาลมากกว่า และเนื่องจากไม่ต้องการให้รัฐบาลสิ้นเปลืองงบประมาณในการชดเชยส่วนต่าง ซึ่งต้องใช้เงินงบประมาณแผ่นดินเป็นจำนวนมาก ส่วนราคาปาล์มน้ำมันที่ลดลงเกี่ยวข้องกับราคาน้ำมันในตลาดโลก ทำให้การใช้น้ำมันปาล์ม เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า และผลิตเป็นน้ำมันไบโอดีเซลน้อยลงด้วย
นายเทพไท กล่าวอีกว่า ตนเห็นด้วยกับการที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรม.พาณิชย์ ได้ทำหนังสือถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ช่วยเร่งรัดนโยบายที่ได้รับความเห็นชอบต่างๆ เกี่ยวกับการแก้ปัญหาราคาปาล์มจากหน่วยงานอื่นๆ อาทิ ขอให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศ (กฟผ.) รับซื้อน้ำมันปาล์มดิบเพื่อนำไปผลิตพลังงานไฟฟ้า ซึ่งจะช่วยดึงปริมาณน้ำมันปาล์มดิบออกจากตลาดได้ และเปิดช่องให้ราคาปาล์มดิบมีโอกาสปรับตัวสูงตามกลไกตลาด เพราะเรื่องนี้อยู่นอกเหนือความรับผิดชอบของกระทรวงพาณิชย์
พร้อมกันนี้ขอให้รัฐบาลผลักดันนโยบายการใช้ยางพาราในการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ และนำมาใช้เป็นส่วนผสมในการทำถนนลาดยางทั่วประเทศโดยกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท กระทรวงคมนาคม เพราะการช่วยเหลือเยียวยาจากรัฐบาล ครัวเรือนละ 15,000 บาท เป็นการช่วยเหลือเยียวยาระยะสั้น ส่วนในระยะยาวหลังจากพ้นวิกฤติโรคโควิด-19 แล้ว ตนอยากให้รัฐบาลเตรียมแผนงานรองรับเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรแบบยั่งยืนต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :