เมื่อเวลา 13.00 น. ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ประธานคณะกรรมาธิการการเมือง การสื่อสารมวลชน เเละการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย กันตภณ ดวงอัมพร ว่าที่ผู้สมัครส.ก.เขตดินแดง พรรคก้าวไกล พร้อมด้วยผู้ปกครองของเยาวชนที่ถูกยิงเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2564 บริเวณ สน.ดินแดงทั้ง 2 คน และทีมทนายความจากภาคีนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน นำคลิปและรายงานของ กมธ.พัฒนาการเมืองฯ ที่รวบรวมหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณที่เกิดเหตุกว่า 54 ตัว ไปยื่นให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดินแดง เพื่อทวงถามความคืบหน้าต่อกรณีที่เกิดขึ้น พร้อมยื่นหลักฐานเป็นเอกสารรายงานของคณะกรรมาธิการ 21 หน้า รวมถึงคลิปวีดีโอ ที่ได้จากกล้องวงจรปิดของกรุงเทพมหานคร 54 ตัว จำนวน 13 คลิป
ณัฐชา กล่าวว่า ในวันนี้ตนได้เดินทางมายังสน.ดินแดง เพื่อทวงถามความคืบหน้าต่อกรณีที่เกิดขึ้น หลังไม่มีความหน้าใดๆ จากเจ้าหน้าที่ตำรวจมากว่า 1 เดือน โดยทางครอบครัวผู้ปกครองของเยาวชนผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้ง 2 คน มีความกังวลเพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านไป ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆในการติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุ โดยในวันนี้ตนต้องการพบผู้กำกับสถานีตำรวจนครบาลดินแดง เนื่องจากเป็นผู้รับผิดชอบพื้นที่เกิดเหตุโดยตรง แต่ได้ทราบจาก พ.ต.ท.โสภณ เเย้มชมชื่น รองผกก.สน.ดินเเดง ว่า ผู้กำกับติดภารกิจ
ณัฐชายืนยันว่า หลังจากนี้จะให้ทางผู้ปกครองของผู้เสียหายทั้ง 2 ราย แลกเบอร์โทรศัพท์กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อติดตามเเละทวงถามความคืบหน้าต่อกรณีที่เกิดขึ้น โดยเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเเจ้งว่า สน.ดินแดงมีคดีเข้ามาหลายร้อยคดี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีอยู่ต้องทำงานหนัก เเละไม่เพียงพอต่อการรับงานปริมาณมากกับคนที่มีจำนวนจำกัด โดยตนได้รับอนุญาตให้เข้าไปตรวจสอบการทำงาน โดยทางรองผกก.ระบุว่า มีการขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจากทุกสน.เพื่อให้มาช่วยสืบหาข้อเท็จจริงกว่าร้อยคดี ดังนั้น คดีของน้องทั้ง 2 คน คือ 1 ใน กว่าร้อยคดี ที่เจ้าหน้าที่กำลังเร่งสอบสวน ยังคงต้องรอคอยต่อไป
“ ถามว่าวันนี้คืบหน้าอะไรบ้าง ผมแทบพูดได้ว่าไม่คืบหน้าเลย แต่ในวันนี้เราได้เอาข้อมูลจากคณะทำงานมายื่นต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในฐานะผู้รวบรวมพยานหลักฐาน อย่างน้อยๆ หากท่านได้ดูข้อมูลของเราเเล้ว อาจจะเป็นประโยชน์บ้าง ในการที่จะพิจารณาคดีต่อไป และกรณีไฟดับในห้วงเวลาที่มีเสียงปืน และไฟติดในห้วงเวลาหลังจากนั้น ผมสงสัยว่าเป็นเหตุการณ์ที่ส่อความผิดปกติหรือไม่ สอบถามยังรอง ผกก. ก็ได้รับคำตอบว่า ไม่ทราบเลยว่ามีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ซึ่งผมก็ยังสงสัยกับคำตอบ
เเต่เบื้องต้นได้ฝากให้ติดตามเรื่องนี้ด้วย และย้ำกับตำรวจว่าในสำนวนต้องมีเรื่องนี้ด้วย กรณีไฟดับตอนที่มีเสียงปืนและไฟติดเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ เนื่องจากไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมาธิการ แต่อย่างน้อยเราได้เอาข้อมูลหลักฐานจากคณะทำงานมาส่งมอบให้ ที่เหลือเป็นหน้าที่ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่จะสืบหาข้อเท็จจริงต่อไป “ ณัฐชา กล่าว
ณัฐชา กล่าวเพิ่มเติมว่า จากข้อมูลเอกสาร 21 หน้า คลิปวิดีโอ 13 คลิป ทั้งหมดชี้ชัดเจน ว่ากลุ่มบุคคลที่ก่อเหตุมีความอุกอาจอย่างมาก ใช้อาวุธปืนบนถนนหลวงโดยไม่เกรงกลัวผู้ที่สัญจรไปมา ใช้รถใช้ถนน หรือแม้กระทั้งชาวบ้านบริเวณโดยรอบ และเมื่อยิงแล้วยังยืนอยู่หน้าสน. ไม่เกรงกลัวว่าจะถูกจับกุม ตรงนี้เป็นสัญญาณว่า กลุ่มชายฉกรรจ์กลุ่มนั้นอาจมีความสัมพันธ์กับตำรวจหรือไม่ สน.ดินแดงควรเร่งสืบหาข้อเท็จจริง เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจและพิสูจน์ความเชื่อมั่นของกระบวนการยุติธรรม และตนขอสื่อสารไปยังประชาชน หากมีเบาะเเสคลิปจากกล้องวีดีโอหน้ารถ ให้ส่งมายังทุกช่องทาง เพราะกล้องหน้ารถ จะเป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่าหน้าตาของผู้ก่อเหตุคือใคร
ขณะที่ พ.ต.ท.โสภณ เเย้มชมชื่น รองผกก.สน.ดินเเดง ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานชุดสอบสวน กล่าวว่า ตนมีหน้าที่ในการรวบรวมพยานหลักฐานจากชุดสืบสวน จึงไม่สามารถระบุเวลาได้ว่าคดีจะดำเนินการเเล้วเสร็จเมื่อไหร่ เพื่อไม่ให้เสียรูปคดี พร้อมจะติดตามดำเนินคดีนี้ต่อไป ขอให้ผู้ปกครองมั่นใจว่าตำรวจจะนำบุคคลที่กระทำมารับโทษให้ได้
ขณะที่ แม่ของเยาวชนอายุ 16 ปี ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ กล่าวว่า น้องยังไม่รู้สึกตัว ตนขอฝากคดีดังกล่าวให้คืบหน้าเร็วกว่านี้ ซึ่งจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจตนไม่ได้รับข้อมูลเเละความคืบหน้าใดๆ โดยตนหวังว่าหลักฐานของคณะทำงานที่นำมายื่นต่อเจ้าหน้าที่ในวันนี้จะเป็นหลักฐานเอาผิดคนกระทำผิดได้ เเละตนขอความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อกรณีที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน
ด้านตัวแทนทนายความ จากภาคีนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า เอกสารเเละรายงานของคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองในวันนี้ประกอบด้วย คลิปจากกล้องวงจรปิด 54 ตัว ในวันที่เกิดเหตุ ทั้งหมด 13 คลิป โดยทางทนายเห็นว่าหลักฐานดังกล่าว เป็นหลักฐานที่เสนอในชั้นกรรมาธิการเเล้วซึ่งถือว่ามีการกลั่นกรองในเบื้องต้น เพียงพอที่ทางสน.ดินเเดง ในฐานะเจ้าของพื้นที่ที่ทำสำนวนดังกล่าว จะสามารถหยิบไปพิจารณาเพื่อสืบหาผู้กระทำความผิดต่อไป ทางทนายเชื่อว่าเอกสารทั้งหมด รวมถึงคลิปต่างๆ จะช่วยให้ค้นหาตัวผู้กระทำความผิดได้ เพราะหลักฐานค่อนข้างชัด และสามารถนำไปสู่การสืบหาผู้กระทำความผิด