คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ระบุว่า “รัฐต้องหันมาเหลียวแลโดยด่วน เมื่อชาวนาถูกเอาเปรียบ ราคาขายข้าว พรรคเพื่อไทยขอเป็นอีกหนึ่งแรงช่วยพี่น้องพ้นจากทุกข์

วันนี้หน่อย ลงพื้นที่ ตำบลบ้านโต้น อำเภอ พระยืน จังหวัดขอนแก่น พร้อมกับ ทีมเพื่อไทย ได้แก่ ส.ส.บัลลังก์ อรรณนพพร ส.ส.มุกดา พงษ์สมบัติ และทีมงานคุณภาพ คุณพงศกร อรรณนพพร คุณอดิศร เพียงเกษ คุณธนิก มาสีพิทักษ์ คุณสุรชัย เบ้าจรรยา ซึ่งล้วนเป็นอดีต ส.ส.ขอนแก่น ที่ทำงานในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่องค่ะ

หน่อยได้พบกับพี่น้องกลุ่มเกษตรกรมที่ทำเกษตรอินทรีย์ ได้ให้กำลังใจในการประกอบอาชีพ พร้อมกับถือโอกาสเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ข้าวปลอดสารพิษ รวมถึงแนะนำวิธีการ ปลูกและขายข้าวอย่างไรให้มีประสิทธิภาพและได้ราคาอย่างเหมาะสม

พี่น้องเกษตรกรชาวนาได้ระบายทุกข์ให้พวกเราฟังว่า ฤดูกาลผลิตนี้ ข้าวสารและข้าวเหนียวขาดตลาด ควรจะขายข้าวได้ราคาดี แต่เพราะต้องประสบปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วม ทำให้ผลผลิตมีน้อย 

มิหน้ำซ้ำพี่น้องชาวนายังถูกเอารัดเอาเปรียบ โดยไม่มีมาตรการของภาครัฐออกมาช่วยเหลือ น่าตกใจมากค่ะ วันนี้ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิคุณภาพดีที่สุดของโลกของเรา ซึ่งปลูกในพื้นที่ภาคอีสาน ขายได้เพียงกิโลกรัมละประมาณ 12 บาทเท่านั้น

ขอเรียกร้องแทนพี่น้องชาวนาไปยังรัฐบาลว่า ในห้วงของการเก็บเกี่ยวรัฐบาลต้องเข้ามาดูแล ไม่ใช่ไปดูแลในช่วงปลายเดือนหรือต้นเดือนหน้าซึ่งข้าวจะอยู่ในมือพ่อค้าคนกลางแล้ว

โดยเฉพาะข้าวเปลือกจะถูกขายและเปลี่ยนมือจากชาวนาไปอยู่ในมือพ่อค้าคนกลาง อยู่กับโรงสี ราคาจึงปรับตัวสูงขึ้นไปที่ประมาณกิโลกรัมละ 20-25บาท ซึ่งพี่น้องชาวนาไม่ได้รับประโยชน์ 

ดังนั้น รัฐต้องมีมาตรการออกมาช่วย ชะลอการขายข้าวทันที และในขณะที่ชาวนาถูกกดราคา ขายข้าวได้ราคาไม่เป็นธรรม เรากลับยังไม่เห็นมาตรการ รวมถึงความช่วยเหลือใดๆจากรัฐบาลอย่างเป็นรูปธรรม

สำหรับมาตรการที่ทีมเพื่อไทย จะสามารถช่วยพี่น้องได้อย่างเร่งด่วนในเวลานี้ก็คือ การหาช่องทางจัดจำหน่าย และสื่อสารไปถึงพี่น้องว่า อย่าเพิ่งรีบขายข้าวนะคะ ให้เก็บไว้รอราคาที่เหมาะสม จึงทยอยขาย เพราะถ้ารัฐจริงใจจะช่วยเหลือเกษตรกรต้องช่วยในช่วงเวลานี้ ก่อนที่ข้าวจะไปอยู่ในมือพ่อค้าคนกลาง 

ขณะที่ในส่วนของนโยบายพรรคเพื่อไทย เราตั้งใจที่จะส่งเสริมเรื่องมาตรการอาหารปลอดภัย ทั้งในไทยและต่างประเทศ โครงการ ข้าวสานธรรม เกิดขึ้นเพื่อที่จะเชื่อมโยงกับกลุ่มเกษตรอินทรีย์ โดยนำข้าวจากมือเกษตรกรไปขายในราคาที่เป็นธรรม ให้ประชาชนในกรุงเทพฯและเมืองใหญ่ สามารถสั่งจองข้าวออแกนิค ส่งให้ถึงบ้านและซื้อตรงจากเกษตรกร เร็วๆนี้กำลังจะมีการเปิดตัวเว็บไซต์ซึ่งเป็นระบบออนไลน์ ให้สั่งจองได้โดยตรงด้วยค่ะ 

นอกจากจะได้แชร์ทุกข์สุขกันแล้ว วันนี้หน่อยยังได้ร่วมลงแขกเกี่ยวข้าวกับพี่น้องชาวนา หน่อยสังเกตเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของทุกคนที่ได้ทำในสิ่งที่รัก และยังถือเป็นการรักษาวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามของไทย โดยเฉพาะเป็นการสืบสาน สิ่งที่พี่น้องชาวนาได้ถือปฏิบัติมาช้านาน