นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยภายหลังการหารือมาตรการช่วยเหลือเกษตกรจากผลกระทบโควิด-19 ร่วมกับนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง วันนี้(9เม.ย.63) ว่าเบื้องต้น ยังต้องไปทำรายละเอียดเพิ่มเติม ในประเด็นที่สำคัญ 3 เรื่อง คือ 1.จะให้ความช่วยเหลือเป็นครัวเรือนและให้จำนวนกี่ครัวเรือน 2.ให้เงินช่วยเหลือครัวเรือนจำนวนเงินเท่าใดต่อครัวเรือน และ 3.วิธีการจ่ายเงินจะจ่ายกี่ครั้ง หรือครั้งเดียว โดยต้องคำนึงถึงงบประมาณ จาก พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ให้อยู่ในส่วนของวงเงินช่วยเหลือเยียวยา 6 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ต้องไปดูเพิ่มเติมว่ากลุ่มเกษตรกรที่ได้ จะต้องไม่ซ้ำซ้อนกับกลุ่มอาชีพอิสระที่ได้รับเงินเยียวยาเดือนละ 5,000 บาท ผ่านการลงทะเบียนเว็บไซต์ เราไม่ทิ้งกัน เพราะในหลักการกระทรวงการคลัง ไม่ต้องการให้มาตรการช่วยเหลือซ้ำซ้อนกัน และต้องการกระจายการช่วยเหลือไปให้ถึงจำนวนคนมากที่สุด
สำหรับกลุ่มเกษตรกรที่จะรับเงินช่วยเหลือ จะครอบคลุมทั้งหมด ทั้งชาวนา ชาวไร่ ชาวสวน ประมง และปศุสัตว์ ที่มีการลงทะเบียนไว้กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประมาณ 9 ล้านครัวเรือน โดยไม่จำเป็นต้องมาลงทะเบียนใหม่ เพราะกระทรวงเกษตรมีการขึ้นทะเบียนไว้หมดแล้วกว่าร้อยละ 99 คาดว่าในวันที่ 10 เม.ย. 2563 จะสามารถสรุปรายละเอียอดของมาตรการได้ โดยหากจ่ายครอบครัวละ 15,000 บาทเหมือนอาชีพอิสระ จำนวน 9 ล้านครัวเรือน ก็จะใช้เงินไม่เกิน 1.3 แสนล้านบาท อยู่ในวงเงิน 6 แสนล้านบาท ตามกรอบ พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท
อย่างไรก็ตามในหลักการการช่วยเหลือคงไม่น่าได้เงินมากกว่า 15,000 บาทต่อครัวเรือน เพราะเป็นมาตรการช่วยบรรเทาผลกระทบ และเกษตรกรแต่ละผลผลิต เช่น ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพด ก็มีมาตรการช่วยเหลือโดยเฉพาะอยู่แล้ว เช่นมาตรการประกันรายได้