ไม่พบผลการค้นหา
3 สมาคมวิชาชีพสื่อออกแถลงการณ์ร่วมจี้ กสทช. ทบทวนคำสั่งสั่งพักใบอนุญาต 'วอยซ์ทีวี' 15 วัน ชี้จำกัดสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชน ขัดแย้งหลักการพื้นฐานในการรับรู้ข่าวสารของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ ย้ำสื่อมวลชนทุกแขนงทำหน้าที่รายงานข่าวสารอย่างรอบด้าน พาประเทศกลับสู่ประชาธิปไตย

สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ ออกแถลงการณ์ร่วม เรื่องหยุดลิดรอนเสรีภาพสื่อและประชาชนและทบทวนคำสั่งพักใบอนุญาตสถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี เนื้อหาระบุว่า เนื่องจากกรณีคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตสถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี เป็นเวลา 15 วัน มีผลตั้งแต่วันที่ 13 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป ทั้งนี้เป็นการพิจารณาภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2561 มาตรา 37 ซึ่งหากยังไม่ปรับปรุงจะเพิ่มโทษอีก หรือถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาต โดยรายการที่ กสทช. อ้างเป็นเหตุพักใบอนุญาตสถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี คือ รายการ Tonight Thailand ออกอากาศวันที่ 15 ธ.ค. 2561 และรายการ WAKE UP NEWS ออกอากาศวันที่ 21,28, 29 ม.ค. และ 4 ก.พ. 2562 เนื่องจากเป็นการนำเสนอรายงานข่าวที่มีลักษณะก่อให้เกิดความสับสน ยั่วยุ ปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้ง

สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ ไม่เห็นด้วยกับการจำกัดสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนดังกล่าว ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้

1) การใช้ดุลพินิจพักการใช้ใบอนุญาต สถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวีครั้งนี้ ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสถานีในฐานะเป็นองค์กรธุรกิจและองค์กรสื่อมวลชน ที่มีคนทำงานในหลายส่วน ซึ่งบางส่วนอาจไม่ได้เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของรายการ หรือมีส่วนรับรู้ในการกระทำของพิธีการบางรายการ แต่ได้รับผลกระทบไปด้วย ดังนั้น การที่ กสทช. ใช้การใช้อำนาจสั่งพักใบอนุญาตสถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี ทั้งสถานีย่อมก่อให้เกิดผลกระทบและความเสียหายที่รุนแรงยิ่งกว่า โดย กสทช. ที่เป็นองค์กรผู้ออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ประกอบการสื่อ และทำหน้าที่กำกับดูแลจะต้องใช้อำนาจด้วยความระมัดระวังเพื่อไม่ให้เป็นการจำกัดเสรีภาพของสื่อและองค์กรธุรกิจเสียเอง

ในกรณีของสถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวีนั้น หากพบว่า รายการใดมีปัญหาควรพิจารณาเป็นกรณีไป ไม่ใช้อำนาจพักใบอนุญาตทั้งสถานี หรือ หากการนำเสนอเนื้อหาของสถานีมีผลกระทบหรือละเมิดสิทธิบุคคล ด้วยการหมิ่นประมาทบุคคลอื่นผู้เสียหายหรือผู้มีส่วนได้เสีย ย่อมใช้สิทธิแจ้งความดำเนินคดีหรือฟ้องร้องตามกฎหมายปกติได้อยู่แล้ว 

2) คำสั่งของ กสทช. ดังกล่าว ขัดแย้งกับบทบัญญัติ ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ที่ระบุว่า การสั่งปิดกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนอื่น เพื่อลิดรอนสิทธิเสรีภาพจะกระทำมิได้ ดังนั้น การใช้อำนาจของ กสทช. ออกคำสั่งครั้งนี้ จึงขัดแย้งกับหลักการพื้นฐานในการรับรองสิทธิเสรีภาพของประชาชนและสื่อมวลชน และกระทบต่อการรับรู้ข่าวสารของประชาชน โดยขณะนี้บรรยากาศช่วยรณรงค์หาเสียงควรเอื้อต่อการแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อและประชาชน เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารอย่างรอบด้าน

3) ขอเรียกร้องสื่อมวลชนทุกแขนงทำหน้าที่รายงานข่าวสารอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะในช่วงที่ประเทศไทยกำลังกลับเข้าสู่ความเป็นประชาธิปไตย สื่อต้องระมัดระวังในการรายงานข่าวเลือกตั้งไม่ให้มีลักษณะว่าเข้าข้างหรือเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องหลีกเลี่ยงการรายงานข่าวด้วยการใช้วาทกรรมที่ก่อให้เกิดความเกลียดชังระหว่างคนในชาติ และอาจทำไปสู่ความขัดแย้งและความรุนแรงดังที่เคยเกิดมาแล้ว

จากเหตุผลดังกล่าว องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนทั้งสามข้อเรียกร้องให้ กสทช.ได้ทำหน้าที่ในฐานะองค์กรอิสระอย่างแท้จริงโดยใช้อำนาจด้วยความระมัดระวังด้วยการเร่งทบทวนคำสั่งพักใบอนุญาตสถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี เพื่อให้สังคมไทยได้เดินหน้าสู่การเลือกตั้งด้วยบรรยากาศที่เกื้อหนุนและเปิดกว้างในการแสดงความคิดความเห็นของสื่อมวลชนและประชาชนต่อไป 


51973000_1098365427001824_1974286360189599744_n.jpg51929190_1098365450335155_2872004176538238976_n.jpg


ข่าวที่เกี่ยวข้อง :