ไม่พบผลการค้นหา
นับจากรัฐบาล-คสช.ที่ว่ากันว่าได้รับ ‘คำเตือนที่ต้องฟัง’ ในเรื่องการบังคับใช้กฎหมายออกมา ก็ทำให้ ‘วิษณุ เครืองาม’ มือกฎหมาย คสช. ต้องออกมาสะกิดเตือนบุคคลใน ครม. ที่ไปร่วมพรรคพลังประชารัฐ โดยเฉพาะ 4 รัฐมนตรี

แม้แต่ ‘บิ๊กตู่’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช.ด้วย หากได้รับการเสนอชื่อจาก ‘พรรคพลังประชารัฐ’ ให้เป็น ‘แคนดิเดตนายกฯ’ เมื่อใดนั้น ก็ควรแสดงความเป็นกลาง เพราะเป็นข้าราชการ แม้จะใช้เวลานอกราชการก็ไม่สมควร เพราะมีความแตกต่างจากแคนดิเดตนายกฯก่อนหน้านี้ที่เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง แต่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นเรื่องที่พรรคเสนอขึ้นมาเอง และยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติได้

“กรณีผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ ไม่มีใครไปเลือกเป็นเรื่องที่พรรคเสนอ จึงไม่ควรและมีโอกาสเสี่ยงต่อความผิดหลายอย่าง ส่วนจะเป็นอะไรนั้นผมบอก พล.อ.ประยุทธ์เองดีกว่า” นายวิษณุ กล่าว

โดยก่อนหน้านี้ ‘รองนายกฯวิษณุ’ ได้ออกมาเตือน 4 รัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐ แม้ไม่ต้องลาออก จนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่เพราะกฎหมายไม่ได้กำหนด แต่ก็ต้องระวังตัวไว้ก่อน

“ในความเป็นจริงมนุษย์ เราไม่ได้อยู่ได้ด้วยข้อกฎหมายอย่างเดียว แต่อยู่ด้วยอะไรอีกหลายอย่าง ยังมีเรื่องสังคม ความเหมาะสม ที่ต้องหาทางเอาตัวรอดกันเอง” นายวิษณุ กล่าว

มีการคาดว่าทั้ง 4 รัฐมนตรี เตรียมลาออกหลัง พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ประกาศใช้ 2ม ม.ค. 2562 ตามที่ คสช. ได้ชี้แจงปฏิทินนี้ในการพูดคุย‘แม่น้ำ 5 สาย – พรรคการเมือง’ เมื่อ 7ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นหมุดมายสำคัญในการเริ่ม ‘หาเสียง’ อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งที่ผ่านมา 4 รัฐมนตรี ก็อาศัยช่วงนอกเวลาราชการในการไปทำกิจกรรมพรรค แต่เมื่อถึงช่วงหาเสียงเต็มขั้น ก็อาจต้องสละเก้าอี้รัฐมนตรี เพื่อไปทำงานพรรคเต็มที่มากขึ้น

‘บิ๊กตู่’ ก็ปูทางลงให้ตัวเอง แม้อาจมีชื่อไปอยู่เป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคการเมือง และไม่ต้องเป็น ‘รัฐบาลรักษาการ’ ตามที่รัฐธรรมนูญ 2560 ได้ระบุไว้ในบทเฉพาะกาล แต่การ ‘วางตัวเป็นกลาง’ ก็ยังคงมีความสำคัญ 

เพราะ ‘บิ๊กตู่’ ยังคงสวมหมวก ‘หัวหน้า คสช.’ อยู่ด้วย แม้เคยประกาศชัดไปแล้วว่า ‘ไม่ลาออก’ จากเก้าอี้ หัวหน้าคสช. ก็ตาม แต่ก็ใช่ว่าจะทำอะไรได้ทั้งหมด ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยืนยันแล้วว่าจะไม่ใช้ มาตรา 44 กับการเลือกตั้ง แต่จะใช้ มาตรา44 กับเรื่องที่เกิดขึ้นโดย มาตรา44 ก็ต้องใช้ มาตรา 44 ไปแก้ไขและการบริหารราชการแผ่นดินเท่านั้น เช่น คำสั่งปลดล็อคพรรค นั่นเอง พร้อมย้ำว่า ตนจะระมัดระวังตัวในการแสดงออกและคำพูดมากขึ้น 

จึงทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ มีท่าทีนิ่งขึ้น รวมทั้งท่าทีของ ‘เหล่าทัพ’ที่นิ่งขึ้นเช่นกัน เห็นได้จากการประชุม ผบ.เหล่าทัพ ครั้งล่าสุดที่ ทบ. เป็นเจ้าภาพ ตามธรรมเนียม ผบ.ทหารสูงสุด จะนำ ผบ.เหล่าทัพ ยืนเรียงแถวแถลงข่าวกับสื่อ แต่ในครั้งนี้ได้มอบหมายให้ ‘ทีมโฆษก บก.กองทัพไทย’ มาให้ข่าวกับสื่อแทน

โดยมีรายงานว่า ด้วยสถานการณ์ต่างๆ ผบ.เหล่าทัพ จึงไม่ต้องการมายืนแถวให้ข่าวกับสื่อ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการเมืองที่อาจสร้างความสับสนขึ้นได้ ซึ่งที่ผ่านมา ผบ.เหล่าทัพ ก็หลีกเลี่ยงการตอบคำถามการเมืองมาตลอด และทำงานในหน้าที่เงียบๆ

ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมานี้ กองทัพก็เริ่มถอยทัพลงมา เพื่อปูทางไปสู่การเลือกตั้ง หนึ่งในนั้นคือการปรับลดกำลังพล ‘กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย’ ของ คสช. ที่ปรับลดเพื่อให้รองรับกรอบงานและสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป รวมทั้งการระมัดระวังในช่วงการเลือกตั้ง แม้แต่การลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน ที่อาจถูกมองว่า ‘หาเสียง’ ได้ และอาจมีกลุ่มการเมือง ‘แฝงมาใช้ประโยชน์’ ร่วมด้วย

รวมทั้งสถานการณ์หลังเลือกตั้งที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ชัดเจน โดยเฉพาะ ‘ผลการเลือกตั้ง’ จะเป็นที่ยอมรับหรือไม่ เพราะการต่อสู้ทางการเมืองวันนี้เปลี่ยนไปไม่ใช่ ‘เพื่อไทย-ประชาธิปัตย์’ เช่นในอดีต แต่เป็น ‘ขั้วหนุนและต้านคสช.’ อีกทั้ง ‘หัวหน้าคณะรัฐประหาร’ จากที่เป็น ‘กรรมการกลาง’ ก็ลงมาสู่สนามการเมืองด้วย 

ทำให้ ผบ.เหล่าทัพ ที่เป็น ‘สมาชิก คสช.’ โดยเฉพาะ ‘บิ๊กแดง’ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมงพษ์ ผบ.ทบ. และเลขาธิการ คสช. ที่ควบตำแหน่ง ผบ.กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ของ คสช. ด้วย รวมทั้ง ‘บิ๊กแดง’ ยังมี ‘สถานะสำคัญ’ อยู่ด้วย จึงทำให้ ‘บิ๊กแดง’ พยายามหลีกเลี่ยงตอบคำถามทางการเมือง-สถานการณ์ในประเทศ โดยให้ ‘ทีมโฆษกทบ.-คสช.’ ทำหน้าที่แทน 

รวมทั้งในสภาวะใกล้เลือกตั้งกองทัพจึงต้องวางตัวให้ดี แม้ในเวลานี้จะมี กกล.รส. และ กอ.รมน. ที่ปฏิบัติงานในแต่ละพื้นที่อยู่ก็ตาม รวมทั้งติดตามกลุ่มต่างๆเพื่อรักษา ‘บรรยากาศ’ การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นด้วย หลังเริ่มมีการออกเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆทันทีที่ คสช. ปลดล็อคการเมือง

ส่วนอีกความเคลื่อนไหวที่สำคัญ ‘ป๋าเปรม’พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เตรียมเปิดบ้านสี่เสาเทเวศร์ให้ พล.อ.ประยุทธ์ นำ คณะรัฐมนตรี และ ผบ.เหล่าทัพ เข้าอวยพรวันปีใหม่ 27ธ.ค.นี้ หลัง ‘ป๋าเปรม’ ปิดบ้านงดรับอวยพรวันเกิด 26ส.ค.ที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสข่าวต่างๆในเวลานั้น โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพของ ‘ป๋าเปรม’ ซึ่งก็สยบข่าวลือไปทั้งหมด เพราะ ‘ป๋าเปรม’ ยังสุขภาพแข็งแรง 

แม้จะมีภาพนั่งรถเข็นอยู่บ้าง แต่ ‘ป๋าเปรม’ ยังยืนและเดินเองได้อยู่ ซึ่งการนั่งรถเข็นจะใช้เพียงที่ต้องเดินหรือนั่งรับแขกนานๆเท่านั้น เห็นได้จากงาน ‘ป๋าเปรม’ เปิดบ้านสี่เสาฯ ให้ ‘มหาธีร์’นายกฯมาเลเซีย เพื่อนรัก เข้าพบและพุดคุยกัน รวมทั้ง ‘ป๋าเปรม’ กลับบ้านแม่ทัพ ที่โคราช ให้กำลังใจนักกีฬาชาย-หญิงสโมสรวอลเลย์บอล จ.นครราชสีมา

ล่าสุด 14 ธ.ค. ที่ผ่านมา ‘ป๋าเปรม’ เยี่ยมค่ายทหารม้า ค่ายเปรมติณสูลานนท์ ที่ตั้งกองพลทหารม้าที่ 3 (พล.ม.3) จ.ขอนแก่น พร้อมดูความคืบหน้าการจัดตั้งกองพล ที่ดำเนินการในระยะที่ 1 ใกล้เสร็จสิ้น หลังอนุมัติมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ และจะเข้าระยะที่ 2 ในปี2563 โดยมี ‘บิ๊กแบล็ค’พล.ท.ธราธร ธรรมวินทร แม่ทัพภาคที่ 2 ต้อนรับ และมี ‘ลูกป๋า’ ที่เป็นทหารม้ามารอพบ ‘ป๋าเปรม’ ด้วย เท่ากับว่าตั้งแต่วันเกิดมา ‘ป๋าเปรม’ ออกงานบ่อยขึ้น ทำให้กระแสข่าวเรื่องสุขภาพที่ลือถึงขั้นป่วยหนักลดลงไปด้วย

ดังนั้นการเปิดบ้านสี่เสาฯ 27ธ.ค.นี้ จึงต้องจับตาให้ดี หลังปีที่แล้ว ‘ป๋าเปรม’ ได้สะกิดเตือน พล.อ.ประยุทธ์ เรื่อง ‘กองหนุนลด’ ไปแล้ว ก่อนจะมีการเปิดตัวพรรคพลังประชารัฐ พลังดูดอดีตส.ส.ร่วมพรรค และการประกาศ “ผมสนใจงานการเมือง” ของ พล.อ.ประยุทธ์ ด้วย 

ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ‘ป๋าเปรม’ เฝ้าติดตามสถานการณ์การเมืองอยู่ตลอด ผ่านการอ่าหนนังสือพิมพ์และทางโทรทัศน์ทั้งในและต่างประเทศ แต่ไม่ได้ใช้สื่อโซเชียลฯ ซึ่ง พล.อ.พิศณุ พุทธวงศ์ นายทหารคนสนิท ‘ป๋าเปรม’ ระบุว่า พล.อ.เปรม ห่วงบ้านเมือง เพราะใกล้ช่วงเลือกตั้งแล้ว และสถานการณ์หลังเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร

การเปิดบ้านสี่เสาฯครั้งนี้ ก่อนเลือกตั้งและหลังนักการเมืองถูก ‘แช่แข็ง’ มาเกือบ 5 ปี ต้องจับตาว่า ‘ป๋าเปรม’ จะส่งสัญญาณใดออกมาบ้าง ที่ผ่านมา ‘แรงสะกิด’ ก็เกิดขึ้นจริง ซึ่งก่อนหน้านี้ คสช. และ รัฐบาล ก็ได้รับ ‘คำเตือนที่ต้องฟัง’ เรื่องการบังคับใช้กฎหมายมาแล้ว ดังนั้นทุก ‘คำเตือน – แรงสะกิด’ จากผู้ใหญ่ของบ้านในเวลานี้จึงสำคัญไม่น้อย ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องรับฟังเพื่อรับมือและวางตัวทางการเมืองให้ดี

ระวังจะไปไม่ถึงฝั่งฝัน !!

ปริศนา ลายพราง
164Article
0Video
39Blog