วันที่ 31 ส.ค. เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (1 ก.ย.) ช่วงเช้า การตรวจสอบคุณสมบัติรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะเสร็จสิ้น และคาดว่าจะสามารถจะทูลเกล้าฯได้ในวันเดียวกัน ส่วนกรณีของคุณสมบัติว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พิชิต ชื่นบาน แม้จะไม่ขัดคุณสมบัติการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี แต่อาจจะถูกตรวจสอบเรื่องจริยธรรมในภายหลัง เศรษฐา มองว่า ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกๆ ว่าที่รัฐมนตรี ถ้าผิดข้อกฎหมาย หรือขาดออกมาแล้ว ก็ถือว่าไม่ผิดจริยธรรม ซึ่งตอนนี้กำลังขอความเห็นจากคณะกรรมการกฤษฎีกา ถ้าหากมีความเห็นออกมาอย่างไร ก็ถือว่าเป็นที่สิ้นสุด และคาดว่าจะมีความเห็นมาในวันพรุ่งนี้ ส่วนถ้าหากมีรายชื่อรัฐมนตรีบางรายออกมาและสังคมมีการคัดค้านในภายหลังนั้น เศรษฐา กล่าวว่า เรื่องนี้คงไม่มีใครถูกใจได้ทั้งหมด 

“ผมเชื่อว่าเรื่องนี้คงไม่มีใครถูกใจได้ทั้งหมด ในทุกท่านที่ถูกสรรหาเข้ามา เราต้องให้เกียรติพรรคร่วมรัฐบาล และว่าที่รัฐมนตรีที่เข้ามาอาสาทำงานเพื่อประเทศชาติ เราคอยดูผลงานกันดีกว่า ขอให้วัดกันด้วยผลงาน” เศรษฐา กล่าว

เศรษฐา ตอบคำถามถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย หนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาล ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การฟอร์มทีม ครม. รัฐบาลเศรษฐา 1 ซึ่งใช้ถ้อยคำค่อนข้างรุนแรง ว่า “ผมน้อมรับฟังความเห็นนี้ และขอไม่ตอบโต้ครับ” 

ส่วนกรณีที่ สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล จะเสนอตัวเป็นที่ปรึกษานายกฯนั้น เศรษฐา กล่าวว่า ก็มีคนเสนอมาเยอะแยะ ก็จะรับไว้พิจารณา มีหลายท่านอยากจะมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือประเทศชาติ ตนก็จะรับไว้พิจารณาอีกทีหนึ่ง 

ส่วนการลดราคาค่าพลังงานนั้น เศรษฐา ย้ำว่า จะเป็นหนึ่งในวาระแรกๆที่จะถูกหยิบยกมาพิจารณา ส่วนกรณีที่ พรรคก้าวไกล ออกมาทวงถามเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่จะนำมาพิจารณาในวาระแรกของ ครม.หรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ก็จะเป็นวาระแรกๆ เช่นกัน เราก็มีอีกหลายๆ เรื่อง ขอให้อดใจรอสักนิด เราไม่ได้มีแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวแน่นอน รวมถึงเรายังมีเรื่องวีซ่านักท่องเที่ยว โดยในเวลา 10.00 น. วันนี้ ก็จะพบปะกับกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคาร ธกส. เพื่อพูดคุยหาทางออกในการพักหนี้เกษตรกร เชิญว่าที่ รมช.คลัง มาพูดคุยว่าเราสามารถทำได้ทันทีหรือเปล่า เพราะประชาชนเดือดร้อนเรื่องหนี้สินกันเยอะมาก นี่เป็นหนึ่งในวาระสำคัญของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ส่วนตัวเลขของราคาพลังงานที่จะปรับลดนั้น ขอทำเรื่องตัวเลขก่อน เมื่อวานมีการพูดคุยกันกับ รักษาการ รมว.พลังงาน มีแนวกันอย่างชัดเจนแล้ว และต้องปรึกษากับทางกระทรวงการคลังด้วย “อย่างเพิ่งให้ผมพูดไปก่อน ขอให้คอยกันสักประเดี๋ยวนึง” 

ส่วนเรื่องการพูดคุยกับตัวแทน 8 ผู้บริหารสนามบิน และทาง ทอท. เพื่อขยายไฟลท์บินเพิ่มขึ้นนั้น นายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ได้รับการตอบรับแล้ว สืบเนื่องจาก ที่คณะนายกรัฐมนตรีลงไปพบปะกับผู้ประกอบการใน จ.ภูเก็ต-พังงา และกลับมาพูดคุยกันต่อกับตัวแทน 8 ผู้บริหารสนามบิน และทาง ทอท. ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ตอบรับ และเตรียมพร้อมในการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว ซึ่งถือว่ากระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น และขอบคุณทุกภาคส่วนที่ส่วยช่วยเหลือกัน เมื่อวานนี้ ผู้ว่าราชการเชียงใหม่ก็มาพบปะกัน และเชียงใหม่ถือว่าเป็น จ.ท่องเที่ยวสำคัญที่สุด จ.หนึ่งของประเทศไทย ตนกับทีมงานก็ให้ข้อคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่องจะทำอย่างไรให้ภาคท่องเที่ยวกลับมาได้ และแนะนำท่านผู้ว่าฯ ให้ไปดูทุกภาคส่วน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจ 

ส่วนการลงพื้นที่ที่ตลาดเมืองไทยภัทร ย่านรัชดาในวันนี้ตอนบ่าย เพื่อรับฟังปัญหาสินค้าราคาแพง และประเด็นค่าครองชีพที่สูงนั้น เราขอโอกาสในการทำงาน ส่วนหากมีประชาชนจำนวนหนึ่งออกมาต่อต้านในระหว่างการลงพื้นที่ เหมือนอดีตนายกฯ คนก่อนนั้น นายกรัฐมนตรี มองว่า เป็นเรื่องธรรมดา ถ้าหากอาสามาทำการเมือง เรื่องเหล่านี้เราต้องรับฟัง มีทั้งติและชม รวมถึงคำแนะนำ แต่อยากจะให้เป็นการติเพื่อก่อ เพราะตนก็เพิ่งเข้ามาในเส้นทางทางการเมือง มีความจริงใจที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาให้ประชาชน

“อยากให้เป็นการติเพื่อก่อ ยอมรับว่าเพิ่งเข้ามาทำงานการเมือง มีความตั้งใจจริงที่จะไปรับฟังปัญหาของประชาชนโดยเฉพาะเรื่องเร่งด่วนที่ต้องนำเข้าที่ประชุม ครม.นัดแรก ซึ่งวันนี้จะต่อสายคุยกับหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เรื่องของนโยบายรวมถึงพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ เพราะหลังจากถวายสัตย์ปฏิญาณตน จะมีการแถลงนโยบายถึงจะประชุม ครม. นัดแรกได้ เพราะยังมี 3 สิ่งสำคัญที่จะทำ ซึ่งย้ำว่าพักหนี้เกษจรกรจะเป็นวาระแรกๆ แต่ขอดูขั้นตอนก่อน”

นอกจากนี้ เศรษฐา ยังเปิดเผยว่านโยบายของรัฐบาลที่จะแถลงใกล้สมบูรณ์ 100% แล้ว คาดว่าอีก 1 สัปดาห์จะแล้วเสร็จ ซึ่งขณะนี้ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ทีมงานนโยบายกำลังรวบรวมอยู่ โดยประสานงานกับทุกพรรคร่วมรัฐบาล