นิตยสารอีโคโนมิสต์รายงานว่าตลาดหุ้นจีนตกลงกว่าร้อยละ 8 ในวันที่ 3 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นการหุ้นตกภายในวันเดียวที่มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2558 โดยมีผลพวงมาจากความกังวลต่อเศรษฐกิจท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 

การท่องเที่ยวกลายเป็นหนึ่งอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการแพร่ระบาดในครั้งนี้ อัตราการจองโรงแรมในจีนตกลงกว่าร้อยละ 45 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ตามข้อมูลจากธนาคารซิตี้แบงก์ นอกจากนี้หุ้นของสายการบินใหญ่ 3 รายของจีน ได้แก่ แอร์ไชนา, ไชนา อีสเทิร์น แอร์เวย์ และไชนาเซาเทิร์นแอร์ไลน์ ตกลงมากกว่าร้อยละ 20 นับตั้งแต่มีข่าวผู้เสียชีวิตรายแรก เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ที่ผ่านมา

เมื่อเปรียบเทียบกับสถานการณ์ในอดีต จำนวนผู้โดยสารของสารการบินในเอเชียตกลงกว่าร้อยละ 35 ช่วงที่โรคซาร์สระบาดในปี 2546 ขณะที่สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิค สายการบินหลักของฮ่องกงก็มีเที่ยวบินลดลงถึงร้อยละ 80 ด้านผลกระทบที่เคยเกิดขึ้นกับสายการบินในช่วงที่มีการระบากของโรคอีโบลา ที่เริ่มจากฝั่งตะวันตกของทวีปแอฟริกา ในปี 2557 ส่งให้จำนวนนักเดินทางชาวต่างไปยังประเทศเซียร์ราลีโอนลดลงถึงร้อยละ 93 

เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาแตกต่างจากโรคแพร่ระบาดทั่วไป และยังไม่สามารถระบุระยะเวลาในการควบคุมสถานการณ์ให้กลับมาเป็นปกติได้ ทำให้สายการบินต้องแบกรับต้นทุนในระยะเวลาที่ยาวนานกว่า

นอกจากนี้ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ยังต้องเตรียมตัวรับมือกับมาตรการแบนนักท่องเที่ยวจีนหรือนักเดินทางที่มีประวัติเดินทางไปยังประเทศจีนของฝั่งรัฐบาลด้วย 

ล่าสุด สายการบินเอมิเรตส์ ก็ประกาศยกเลิกเที่ยวบินไปยังจีนทุกเมืองยกเว้นแค่ปักกิ่ง เมื่อวันที่ 3 ก.พ. ที่ผ่านมา 

อ้างอิง; The Economist