กรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กถึงมาตรการเยียวยาของรัฐบาล โดยมองว่าเป็นมาตรการที่ยังไม่พอและยังไม่ครบ พร้อมเสนอแนวทางบริหารจัดการงบประมาณและมาตรการเยียวยาว่า
อัดฉีดเงินช่วยคนตัวเล็กด่วน ชดเชยรายได้ให้ SMEs และไม่เก็บภาษีมนุษย์เงินเดือน
พรรคกล้ามองว่ามาตรการเยียวยาที่ประกาศออกมา 'ยังไม่พอและยังไม่ครบ'
กลุ่มที่เดือดร้อน และถูกมองข้าม คือประชาชนตัวเล็ก และผู้ประกอบการ SME ที่เสียภาษีให้รัฐมาโดยตลอด
วงเงิน 200,000 ล้านที่จะใช้นั้นน้อยเกินไป ไม่ว่าจะมองในภาพใหญ่ผลต่อเศรษฐกิจ หรือจะมองในแง่มุมการลดความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับสิทธิความช่วยเหลือ
รัฐบาลมีเงินหน้าตักอยู่ 600,000 ล้าน และถ้าปรับลดโครงการต่างๆที่ไม่เร่งด่วนออกไป น่าจะมีอย่างน้อย 750,000 ล้าน ที่จะนำมาช่วยลดภาระประชาชน และผู้ประกอบการ
ยังขาดประชาชนกลุ่มสำคัญที่ถูกมองข้าม นั่นคือกลุ่มที่ไม่รวย แต่ก็เสียภาษีให้รัฐมาตลอด ช่วงโควิดนี่เขาก็เดือดร้อน และการช่วยเหลือกลุ่มนี้จะส่งผลโดยตรงกับการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกด้วย กลุ่มนี้คือผู้ประกอบการระดับเล็กไปถึง SME และคนทำงานที่มีรายได้ไม่เกินเดือนละ 40,000 บาท
ข้อเสนอพรรคกล้ามี 2 ข้อ ปฏิบัติได้ทันที
1. เราควรชดเชยรายได้ ให้ผู้ประกอบการรายเล็ก และ SME ที่รายได้ลดลงในช่วงโควิด โดยใช้ภาษี VAT ที่ผู้ประกอบการจ่ายเป็นตัวเปรียบเทียบยอดขายระหว่างปี 2562 (ก่อนโควิด) และปี 2563 (หลังโควิด) โดยที่รัฐบาลสามารถกำหนดกติกาเงื่อนไขและเพดานการชดเชยได้ - วิธีการนี้เป็นการช่วยเหลือโดยตรงให้กับผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษีที่วันนี้เดือดร้อน และเป็น ‘พลเมืองดี’ มาตลอด
2. กลุ่มที่ควรได้รับความช่วยเหลือกลุ่มที่สองคือประชาชนที่จ่ายภาษีเงินได้มาโดยตลอด - รัฐบาลควรเว้นภาษีเงินได้ทั้งหมดให้กับผู้เสียภาษีในกลุ่มที่มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 500,000 บาทและเสียภาษีในอัตราไม่เกิน 10% ซึ่งทั้งหมดมีจำนวนรวมประมาณ 3 ล้านคน เป็นเม็ดเงินภาษีประมาณ 50,000 ล้านบาท
ทั้งสองมาตรการสามารถดำเนินการได้ทันทีในวงเงินกู้เดิมของรัฐบาล
อย่าให้คนตัวเล็กสู้เพียงลำพัง อย่าทอดทิ้งพวกเขา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :