นายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวตอนหนึ่งในโครงการสัมมนา "บทบาทหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกับการสนับสนุนการดำเนินงาน และการให้บริการของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร" โดยยืนยันว่าประเทศไทยจะไม่เกิดเหตุการณ์ shutdown หรือหยุดชะงักจากการไม่มีงบประมาณใช้ โดยเฉพาะหากงบประมาณปี 2563 ไม่สามารถจัดทำได้ทันตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ สามารถใช้งบประมาณปี 2562 ไปก่อนได้
โดยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 141 พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ มาตรา 12 ที่กำหนดสาระสำคัญของการใช้งบประมาณไปพลางก่อนนั้น สำนักงบประมาณจะออกหลักเกณฑ์ที่ได้รับการอนุมัติจากนายกรัฐมนตรี โดยจะจัดสรรตามงบประมาณที่ได้ขอไว้ตามงบประมาณปี 2562 อนุมัติงบประมาณไม่เกินกึ่งหนึ่ง หรือครึ่งหนึ่งของแต่ละแผนงานรายการงบกลาง ประเทศจะเดินหน้าต่อไปได้ ไม่มีปัญหาเรื่องเงินเดือน งบประจำ ไปจนถึงงบลงทุนที่ทำสัญญาแล้ว ที่ยังสามารถดำเนินการต่อไปได้ หลังจากนั้นเมื่อผ่านไปเดือนมกราคม 2563 ไปแล้ว ซึ่งคาดว่าพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 จะประกาศใช้ ทุกอย่างจะสามารถดำเนินการต่อเนื่องไปได้ตามปกติ
นายเดชาภิวัฒน์ ยังเน้นย้ำการแปรญัตติงบประมาณ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 144 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา หรือคณะกรรมาธิการ โดยห้ามเสนอ แปรญัตติ และกระทำการด้วยประการใด ที่มีผลให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา มีส่วนทั้งทางตรงและทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่าย หรือมีผลประโยชน์ทับซ้อนเกิดขึ้นซึ่งได้รับความสนใจจาก ส.ส.ที่ได้สอบถามความชัดเจนจากผู้อำนวยการสำนักงบประมาณว่า หากได้รับเสียงสะท้อนจากท้องที่จนนำไปสู่การขออนุมัติงบประมาณจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 144 หรือไม่ ทั้งที่เป็นการทำหน้าที่ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยผู้อำนวยการสำนักงบประมาณขอไปศึกษาในรายละเอียดเพิ่มเติม ก่อนให้คำตอบในเรื่องนี้อีกครั้ง
อย่างไรก็ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 144 บัญญัติไว้ว่า หากพบการกระทำผิด ส.ส. ส.ว.จะสิ้นสุดสมาชิกภาพ ถูกเพิกถอนสิทธิ์สมัครเลือกตั้ง ในขณะที่คณะรัฐมนตรีจะต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ ถูกเพิกถอนสิทธิสมัครเลือกตั้ง และให้ผู้กระทำรับผิดชดใช้เงินรวมถึงดอกเบี้ย และถูกเรียกเงินคืน หรือต้องชดใช้ค่าเสียหายภายใน 20 ปี