นันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ วิเคราะห์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Nantiwat Samart ภายหลังจากมีผู้ตั้งคำถามถึงเบื้องหลังการชุมนุมและเคลื่อนไหวของกลุ่มนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนที่ใช้ชื่อว่า "ประชาชนปลดแอก"
นันทิวัฒน์ เชื่อว่ามีต่างชาติหนุนหลังม็อบ และหากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หลุดออกจากตำแหน่ง รัฐบาลใหม่จะยอมตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของตะวันตก และลดความเข้มแข็งของจีน
เนื้อหาทั้งหมดมีรายละเอียดดังนี้
ต่างชาติอยู่เบื้องหลังม็อบ ?
มีคำถามคาใจคนไทยว่า ม็อบปลดแอกที่ขับเคลื่อนอยู่ในเวลานี้ มีต่างชาติหนุนหลังมั้ย เชื่อว่ามีแน่นอน
การเมืองในทุกประเทศ เป็นสนามแย่งชิงผลประโยชน์ และสร้างอิทธิพลของมหาอำนาจ ให้เอื้อต่อผลประโยชน์ของตนเอง ชาติใดแข็งขืน ก็ต้องสร้างแรงกดดัน ด้วยการบ่อนทำลายความมั่นคง บ่อนทำลายสถาบันหลัก บ่อนทำลายเศรษฐกิจ และสร้างความแตกแยกภายในประเทศนั้นๆ ด้วยการสร้างและสนับสนุนกลุ่มต่อต้านขึ้นภายในชาติ ให้เกิดความขัดแย้ง แตกแยก ให้ชาตินั้นๆ อ่อนแอและเปลี่ยนฝ่ายมาอยู่ข้างตนเองให้ได้
ความวุ่นวายในตะวันออกกลาง และยุโรปตะวันออก และอเมริกาใต้ คือตัวอย่างการแย่งชิงอิทธิพล ส่วนความวุ่นวายในฮ่องกงและไทย คือสนามแข็งขันของตะวันตกกับจีน
ในการเมืองโลก ตะวันตกกำลังทำท่าจะสูญเสียการนำ จีนกำลังก้าวขึ้นมาท้าทาย โดยมีรัสเซียเป็นพันธมิตร ความพยายามปิดล้อมจีนยังไม่สำเร็จ หากไม่ล้มรัฐบาลและสถาบันฯ ที่ใกล้ชิดสนิทสนมกับจีน
หากขับรัฐบาลลุงตู่ออกไปได้ รัฐบาลใหม่หันมาใกล้ชิดสนิทสนมกับตะวันตก ยอมอยู่ใต้อิทธิพล ร่วมมือปิดล้อมจีนเหมือนเมื่อ 60 ปีที่แล้ว อะไรจะเกิดขึ้น
นี่คือ เหตุผลว่า ทำไมตะวันตกถึงต้องเข้าแทรกแซงการเมืองในประเทศไทย
ทั้งนี้ นันทิวัฒน์ ได้โพสต์แสดงทัศนะเกี่ยวกับการชุมนุมอย่างต่อเนื่องในระยะหลัง โดยยืนยันว่า การใช้สิทธิเสรีภาพต่อต้านรัฐบาลเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ แต่ 2 ข้อที่อย่าทำเด็ดขาด คือ อย่าจาบจ้วงพระมหากษัตริย์ และอย่าละเมิดความมั่นคง อย่าคาดหวังว่า เมื่อเกิดความรุนแรง วุ่นวายทางการเมืองแล้วต่างชาติจะเข้ามาแทรกแซง
ส่วนประวัติการทำงานของ นันทิวัฒน์ พบว่าเขาได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาการข่าวกรอง (นักการข่าว 10 ชช.) กลุ่มงานที่ปรึกษา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ เมื่อ 1 ต.ค. 2550 ซึ่งเป็นยุคของรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ หลังการรัฐประหารปี 2549
ในเวลาต่อมาได้ดำรงตำแหน่งรอง ผอ.สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ด้านข่าวกรองและต่อต้านข่าวกรองภายในประเทศคาบเกี่ยวกับสมัยรัฐบาล 'อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ'
หลังจากนั้นจึงได้ดำรงตำแหน่งคณะอนุกรรมาธิการการประสานภารกิจสภาปฏิรูปแห่งชาติด้านการปกครองท้องถิ่น ในคณะกรรมาธิการการปกครองท้องถิ่น สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สมัยรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นหัวหน้า คสช.
นอกจากนี้ 'เดลินิวส์' เคยรายงานว่าเขาได้สมัครเป็นบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหาเป็นผู้ตรวจการแผ่นดินเมื่อเดือน มิ.ย.2559
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :