วันนี้ (วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568) นายเปาโล ดีโอนีซี (H.E. Mr. Paolo Dionisi) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลีประจำประเทศไทย เข้าพบหารือกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยสรุปสาระสำคัญของการหารือ ดังนี้
รองนายกรัฐมนตรีฯ กล่าวต้อนรับพร้อมขอบคุณอิตาลีที่มีบทบาทอย่างแข็งขันในการส่งเสริมการเยือนระดับสูง ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศมีพลวัตอย่างต่อเนื่อง โดยไทยพร้อมสนับสนุนการทำงานของเอกอัครราชทูตอิตาลีฯ เพื่อขับเคลื่อนความสัมพันธ์และความร่วมมือบนพื้นฐานค่านิยมและผลประโยชน์ร่วมกัน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ การค้าการลงทุน ความมั่นคง รวมไปถึงความร่วมมือในระดับภูมิภาค ซึ่งรัฐบาลไทยยินดีแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและประสานกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสานต่อความร่วมมือที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
เอกอัครราชทูตอิตาลีฯ กล่าวแสดงความรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบกับรองนายกรัฐมนตรีฯ อีกครั้ง พร้อมยินดีที่ทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ฉันท์มิตรที่ลึกซึ้งและดำเนินมาอย่างยาวนานกว่า 156 ปี ซึ่งอิตาลีพร้อมร่วมมือในด้านที่มีศักยภาพร่วมกัน โดยเฉพาะด้านความมั่นคงทางการทหาร รวมไปถึงความร่วมมือระดับทวิภาคีและระดับภูมิภาค ซึ่งภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกถือเป็นพื้นที่สำคัญทางยุทธศาสตร์และไทยถือเป็นเสาหลักในการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างกัน จึงยินดีอย่างยิ่งที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์ให้เข้มแข็งยิ่งขึ้นต่อไป ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือในประเด็นที่สำคัญ ดังนี้
ด้านการท่องเที่ยว ทั้งสองฝ่ายยินดีกับการเปิดเที่ยวบินตรงกรุงเทพฯ - เมืองมิลาน ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้มีการแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวระหว่างกันมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีเที่ยวบินตรงทั้งจากสายการบินไทยและสายการบินอิตาลี นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรีฯ ได้ขอรับการสนับสนุนจากอิตาลีในการเจรจายกเว้นการตรวจลงตราให้แก่ผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาไทยในการเข้าเขตเชงเกน ซึ่งเอกอัครราชทูตอิตาลีฯ จะนำข้อเสนอไปพิจารณาร่วมกันกับประเทศสมาชิกเชงเกนต่อไป
ด้านความมั่นคง รองนายกรัฐมนตรีฯ ยินดีที่ทั้งสองฝ่ายมีความร่วมมือด้านการทหารที่ใกล้ชิด สะท้อนจากการจัดทำเอกสารความตกลงด้านความร่วมมือทางทหารในระดับกระทรวงกลาโหมร่วมกัน ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาร่างความตกลงฯ ฉบับใหม่ เพื่อสานต่อความร่วมมือระหว่างกัน รวมทั้งหากร่างความตกลงฯ ฉบับใหม่เสร็จสิ้น ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของอิตาลีมีความประสงค์จะเยือนไทยเพื่อลงนามในร่างความตกลงฯ ดังกล่าวด้วย
ด้านการศึกษา รองนายกรัฐมนตรีฯ ขอบคุณอิตาลีที่สนับสนุนหลักสูตรทางทหารในระดับต่างๆ พร้อมยินดีแลกเปลี่ยนหลักสูตรทางทหารกับอิตาลี รวมทั้งยกระดับและขยายความร่วมมือทางทหารกับอิตาลีในสาขาอื่นๆ เช่น การศึกษา การฝึก วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ขณะที่เอกอัครราชทูตอิตาลีฯ ยินดีที่ได้เข้าร่วมสังเกตการณ์การฝึกร่วม COBRA GOLD และพร้อมที่จะต่อยอดความร่วมมือเพื่อเสริมสร้างศักยภาพร่วมกัน โดยมีแนวทางที่จะสนับสนุนหลักสูตรการศึกษาทางการทหาร และศูนย์ฝึกต่าง ๆ
ด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและกิจการอวกาศ ไทยจะจัดงานแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์และเทคโนโลยีด้านการป้องกันประเทศ (Defense & Security 2025) ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2568 นี้ ซึ่งเอกอัครราชทูตอิตาลีฯ พร้อมนำผู้ประกอบการชั้นนำของอิตาลีเข้าร่วมจัดแสดงในงานดังกล่าว นอกจากนี้ ในด้านกิจการอวกาศ ไทยได้จัดตั้งศูนย์กิจการอวกาศ เพื่อเตรียมความพร้อมในการป้องกันภัยคุกคามในอนาคต ซึ่งทางอิตาลีเห็นพ้องที่จะแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนข้อมูลในมิติอวกาศให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น