วันที่ 15 พ.ค. 2563 จะเป็นวันสุดท้ายที่กระทรวงการคลังจะเปิดรับเรื่องร้องทุกข์เงินเยียวยา 5,000 บาท ที่กรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งยังพบว่าในช่วงโค้งสุดท้ายมีประชาชนจำนวนมากเดินทางมายื่นเรื่องร้องทุกข์หนาแน่นตั้งแต่เช้า โดยปัญหาหลักที่ประชาชนเข้ามายื่นร้องทุกข์ คือ ลงทะเบียนแล้วไม่พบข้อมูล, ข้อมูลบัตรประชน หมายเลขบัญชีธนาคารไม่ถูกต้อง รวมไปถึงยังไม่ได้รับการพิจารณาผ่านเกณฑ์เพื่อรับเงินเยียวยาข้างต้นด้วย
นายวีรศักดิ์ ปึงทมวัฒนากูล อาชีพขับรถแท็กซี่ เล่าว่า เดินทางมาที่ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์แล้ว 3 ครั้ง แต่ยังไม่ได้คำตอบจากทางกระทรวงการคลังว่าจะได้รับเงินเยียวยาหรือไม่ โดยในระบบแจ้งว่าว่าอยู่ระหว่างตรวจสอบ ซึ่งจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบอย่างไรเพิ่มเติม สถานะตอนนี้เหมือนรอแล้วไม่มีความหวัง ทั้งที่ประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่นานกว่า 14 ปีแล้ว โดยทุกวันนี้รายได้ก็หาไม่พอใช้จ่าย แล้วมาเจอปัญหาแบบค่อนข้างรู้สึกแย่
“ลงทะเบียนครั้งแรกคือ วันที่ 29 มีนาคม ป่านนี้ยังไม่ได้คำตอบ แต่ว่าการตอบรับของเขาสถานะถูกคือได้ตังค์แน่ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ก็ยังงง ผมถึงต้องมาถามอีกครั้งว่า ฐานะผมอยู่ในฐานะอะไร ได้หรือไม่ได้ ถ้าไม่ได้จะได้ทำใจกลับบ้านซะ ไม่ต้องรออะไรอีก เหมือนกับรอแล้วไม่มีความหวังอ่ะคุณ ได้หรือไม่ได้ไม่ได้ให้คำตอบอะไรกับเราเลย” นายวีรศักดิ์ กล่าว
ขณะที่นางสาวรัตนา มลเหลา ประกอบการชีพพนักงานนวดแผนไทย ระบุว่า ร้านปิดตั้งแต่เดือนมี.ค. 2563 ซึ่งได้ลงทะเบียนไปตั้งแต่เดือน มี.ค. แต่ระบบแจ้งเป็นเกษตรกร จึงได้ยื่นทบทวนสิทธิไปตั้งแต่รอบแรก แต่จนถึงขณะนี้ข้อมูลในระบบแจ้งว่ายังอยู่ระหว่างตรวจสอบ ซึ่งตอนนี้มีผลกระทบอย่างมาก เพราะไม่มีรายได้ และมีหนี้บ้าน ซึ่งเป็นบ้านมั่นคงหลังจากถูกรื้อชุมชนริมคลองให้ไปอยู่ที่ใหม่ แม้เบื้องต้นจะมีการพักหนี้ให้ 3 เดือน แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าอนาคตข้างหน้าจะสามารถเริ่มกลับมาประกอบอาชีพได้เมื่อไหร่ เพราะจะหางานใหม่ก็ยากเนื่องจากอายุ 50 ปีแล้ว
“ร้านปิด 3 เดือนแล้วค่ะ ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือเลย ยื่นมาก็ไม่เห็นมีอะไรตอบรับ กลับไปแค่ว่ารอข้อมูล รอข้อมูลตรวจสอบ นี่ร้านเราปิดตั้ง 3 เดือนแล้วนะคะ ตั้งแต่เดือน มี.ค.” นางสาวรัตนา กล่าว
ทางด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในวันที่ 15 พ.ค. 2563 จะมีการปิดรับเรื่องราวร้องทุกข์เงินเยียวยา 5,000 บาทในโครงการเราไม่ทิ้งกันที่กรมประชาสัมพันธ์ แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมองว่า ยังมีประชาชนที่ตกหล่นต้องการมาร้องทุกข์อีกจำนวนมาก จึงสั่งการให้ขยายเวลาการรับเรื่องร้องทุกข์เพิ่มเติม คือ ตั้งแต่วันที่ 18-29 พ.ค. 2563 โดยจะเปิดรับร้องทุกข์และสอบถามข้อมูลได้ที่ธนาคารของรัฐ คือ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย และธนาคารการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ทุกสาขาทั่วประเทศตามเวลาราชการ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ยังเดือดร้อน
ขณะที่ นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า ตัวเลขล่าสุดมีผู้ผ่านเกณฑ์แล้ว 14.5 ล้านราย แบ่งเป็นกลุ่มผู้ที่ผ่านเกณฑ์การคัดกรองตั้งแต่รอบแรกจำนวน 4.4 ล้านราย กลุ่มที่ขอข้อมูลประกอบอาชีพเพิ่มเติมและผ่านเกณฑ์จำนวน 5.3 ล้านราย และกลุ่มที่ขอทบทวนสิทธิและผ่านเกณฑ์จำนวน 4.7 ล้านราย กระทรวงการคลังจะดำเนินการโอนเงินเยียวยาให้ผู้ผ่านเกณฑ์ในสัปดาห์นี้ได้ประมาณ 14.2 ล้านราย และส่วนที่เหลืออีกประมาณ 3 แสนรายจะนำไปรวมกับจำนวนผู้ผ่านเกณฑ์ที่เพิ่มขึ้นในแต่ละวันจากกลุ่มขอข้อมูลประกอบอาชีพเพิ่มเติมและกลุ่มที่ขอทบทวนสิทธิ โดยสามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จทั้งหมดภายในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้การเปิดรับเรื่องร้องเรียนที่กรมประชาสัมพันธ์ พบว่า ในสัปดาห์นี้ประเด็นเรื่องร้องเรียนจากประชาชนส่วนใหญ่ยังคงเป็น 2 กลุ่มเช่นเดิม ได้แก่ กลุ่มผู้ที่ลงทะเบียนไม่สำเร็จ เนื่องจากข้อมูลบัตรประชาชนไม่ถูกต้องจำนวน 1.7 ล้านราย ขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างพิจารณาแนวทางการให้ความช่วยเหลือที่เหมาะสม
ส่วนกลุ่มผู้ที่ได้รับสิทธิ แต่ชื่อบัญชีไม่ตรงกับชื่อและนามสกุลที่ลงทะเบียนไว้ เบื้องต้นมีจำนวนประมาณ 1 ล้านราย ขอให้ติดต่อที่ธนาคารใดก็ได้ที่ท่านมีบัญชีอยู่แล้ว เพื่อผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขบัตรประจำตัวประชาชน จะเป็นช่องทางที่สะดวกที่สุดในการรับเงินมาตรการเยียวยา 5,000 บาท โดยไม่ต้องดำเนินการอะไรเพิ่มเติมอีก กระทรวงการคลังจะมีการตรวจสอบและโอนเงินให้ใหม่เป็นประจำทุกสัปดาห์