ไม่พบผลการค้นหา
“นพ.โอชิษฐ์” จี้ “นายกฯ”เร่งจองวัคซีนป้องสายพันธ์หวั่นล้าหลังในอาเซียน แนะเฝ้าระวัง “โอไมครอน”หวั่นแพร่เชื้อทางอากาศเผยทั่วโลกยังไร้วัคซีนป้องกัน

นพ.โอชิษฐ์ เกียรติก้องชูชัย ส.ส.ชัยภูมิ พรรค เพื่อไทย เปิดเผยว่า การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์โอไมครอน ถือเป็นเรื่องที่น่าวิตกสำหรับประชาชนทั่วโลก นอกจากนี้ ขณะที่องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้ประกาศให้เชื้อไวรัสโคโรนา-โควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน เป็นเชื้อกลายพันธ์ที่ต้องเฝ้าระวัง เพราะการกลายพันธ์ในตำแหน่งที่จะแพร่กระจายได้ง่าย และหลายจุดมากกว่าประมาณ 30-40 จุด 

นอกจากนี้ในส่วนบริษัทที่ผลิตวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 ทั้งไฟเซอร์และโมเดอร์น่า ล่าสุดออกแถลงการณ์ ว่า ต้องใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ถึงจะมีข้อมูลว่าวัคซีนที่ใช้อยู่ในปัจจุบันจะสามารถป้องกันโควิดสายพันธ์โอไมครอนได้มากน้อยแค่ไหน รวมทั้งต้องมาดูผลวิเคราะห์ว่าไวรัสสายพันธ์โอไมครอนทำลายอวัยวะในร่างกายในส่วนได จะทำลายปอดเช่นเดียวกับสายพันธ์เดลด้าหรือไม่ปัจจุบันยังไม่มีรายงานแพทย์ ว่าเชื้อโอไมครอนไปทำลายอวัยวะส่วนไหน รวมไปถึงการแพร่กระจาย กระจายทางด้านใด ผ่านทางสารคัดหลั่งเช่นเดียวกับสายพันธ์อื่นหรือไม่ ทั้งนี้จากรายงานของสาธารณสุขฮ่องกง มีการรายงานว่าสายพันธ์นี้อาจแพร่กระจายเชื้อผ่านทางอากาศ ซึ่งเป็นข้อห่วงใยทางการแพทย์ เพราะหากมีการแพร่ทางอากาศได้ความรุนแรงในการกระจายเชื้อจะรุนแรงมาก 

“ ปัญหาของประเทศไทย รัฐบาลไทยทำงานล่าช้า เพราะต้องได้รับการยืนยันก่อนว่า วัคซีนที่จะสั่งป้องกันไวรัสสายพันธ์ใด และองค์กรอนามัยโลกรับรองหรือยัง ซึ่งไม่ทันต่อสถานการณ์และเสียโอกาสในการปกป้องประชาชนในประเทศ รัฐต้องทำงานให้ไว อย่าตามประเทศอื่น ถึงเวลานี้รัฐต้องจองวัคซีนที่จะนำเข้ามาป้องกันเชื้อโควิดสายพันธ์ใหม่แล้ว ปัจจุบันประเทศไทยตามประเทศเพื่อนบ้านไม่ทัน ทั้งๆที่ไทยควรเป็นผู้นำ แต่ด้วยวิสัยทัศน์ของผู้นำรัฐบาลทำระบบสาธารณสุขไทยล้าหลังสุดในประเทศอาเซียน รัฐต้องตื่นรู้และทำงานด้วยความว่องไวมากกว่านี้”โอชิษฐ์ กล่าว


“วันนิวัติ” อัดการศึกษายุคนี้ไร้การพัฒนา ย่ำอยู่กับที่จนถอยหลังใกล้จะตกเหว

วันนิวัติ สมบูรณ์ ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า การบริหารการศึกษายุคพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผลที่ออกมาคือย่ำอยู่กับที่จนถอยหลังใกล้จะตกเหว ยิ่งมาเจอวิกฤตโควิด เช่นนี้ปัญหาด้านการจัดการเรียนการสอน ส่งผลกระทบต่อระบบการศึกษาไทยโดยตรง การศึกษาไทยยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง แม้ว่าจะนำหลักสูตรฐานสมรรถนะ ที่จะสอนให้เด็กเมื่อจบออกมาสามารถใช้วิชาความรู้ในการดำรงชีวิตได้ แต่สุดท้ายขึ้นอยู่กับพลเอกประยุทธ์ว่าจะเปลี่ยนนโยบายหรือไม่

วันนิวัติ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลเปิดการเรียนการสอนในโรงเรียน แต่การปกป้องชีวิตนักเรียน ยังมีข้อบกพร่องมากมาย รัฐบาลไม่ได้เปิดโรงเรียนอย่างเดียว แต่เปิดประเทศด้วย ดังนั้นจึงเป็นช่องโหว่ให้เกิดการแพร่เชื้อได้ง่าย ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความเชื่อมั่นให้กับเด็กและผู้ปกครอง รวมไปถึงการตรวจ ATK ที่ผ่านมา กระทรวงศึกษากำชับให้มีการตรวจ ATK ทุกโรงเรียนเช่นเดียวกับต่างประเทศ สัปดาห์ล่ะ 2-3 ครั้งสุดท้ายกลายเป็นว่าเป็นการสุ่มตรวจเท่านั้น ส่วนอุปกรณ์ในการตรวจโยนภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้กับองค์กรปกครองท้องถิ่น สร้างภาระให้กับท้องถิ่นเพิ่มขึ้น ทั้งๆที่งบประมาณท้องถิ่นมีจำกัด                  

“ ถึงเวลานี้พลเอกประยุทธ์ มุ่งเน้นสร้างภาพมากกว่าการปฏิบัติจริง รัฐบาลหวังแต่รายได้จากการท่องเที่ยว โดยไม่สนใจคนในประเทศ มุ่งหวังสร้างภาพให้ตัวเองดูดี สร้างความมั่นใจแบบปลอมๆให้กับคนทั้งประเทศ ภาพการลงพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ที่ผ่านมา มีการให้ทีมงาน เกณฑ์คนมาปรบมือต้อนรับ จัดคนมาเชียร์ลุงตู่สู้ๆ พลเอกประยุทธ์อย่าเก่งแต่สร้างภาพเลย ถ้าดีจริงประชาชนเขาต้อนรับแน่ แต่ทุกวันนี้ไปที่ไหนก็มีแต่คนมาไล่ให้ออกจากตำแหน่ง เพราะประชาชน ทนไม่ไหวแล้ว เศรษฐกิจพัง ทำมาหากินลำบาก คนไทยทั้งประเทศเชื่อว่าหากเปลี่ยนผู้นำ โอกาสที่ประเทศจะดีขึ้น เกิดตามมาแน่นอน”วันนิวัติ กล่าว