วันที่ 2 ก.ย. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการประกาศพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐา ทวีสิน 1 โดยมี เศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 นับเป็นประวัติศาสตร์ทางการเมือง ของ จ.นครพนม เนื่องจากมีชื่อ ดร.มนพร เจริญศรี หรือ ส.ส. เดือน ส.ส. เขต 2 พรรคเพื่อไทย นั่งตำแหน่ง รมช.คมนาคม ถือเป็นนักการเมืองหญิงคนแรก ที่มีบทบาทผลงานทางการเมือง รวมถึงกระแสความนิยมท่วมท้นมาตลอด
การทำงานบนเส้นทางการเมือง มานานกว่า 30 ปี ถือเป็นนายก อบจ.หญิง คนแรก รวมถึงเป็น ส.ส.หญิงคนแรกที่ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีหญิงคนแรก ของ จ.นครพนม ถือเป็นข่าวดี ของ พี่น้องประชาชน ชาว จ.นครพนม เนื่องจาก ดร.มนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยกระทรวงคมนาคม ถือเป็น ผู้แทนตลาดล่าง ที่เป็นขวัญใจพี่น้องประชาชน ชนะการเลือกตั้ง ด้วยคะแนนท่วมท้น มาถึง 3 สมัย เนื่องจากพื้นฐานเป็นคนอ่อนน้อม ถ่อมตน เรียบง่าย เข้าถึงประชาชน และมีความซื่อสัตย์ต่อพี่น้องประชาชน รวมถึงพรรคการเมืองต้นสังกัดมาตลอด ไม่เคยเปลี่ยนขั้วการเมือง นอกจากนี้ยังเป็นผู้แทนตลาดล่าง ที่ให้ความสำคัญ เรื่องการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน ด้านความเป็นอยู่ รวมถึงการสร้างงาน สร้างอาชีพ ให้กับประชาชน และแก้ไขปัญหาสินค้าการเกษตรราคาตกต่ำ จนเป็นที่ยอมรับของพี่น้องประชาชน ชนะการเลือกตั้ง ด้วยคะแนนนิยมส่วนตัว เป็นหลักมาทุกสมัย
ในการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2566 ที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า เป็นศึกหนักสุดจากการเลือกตั้ง หลายครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากต้องต่อสู้กับ อำนาจเผด็จการ รวมถึงต้องเจอคู่แข่ง คนสำคัญ ที่ยอมข้ามเขตเลือกตั้ง มาจาก เขต 1 คือ สหายแสง ศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว อดีต ส.ส. เขต 1 พรรคภูมิใจไทย หวังช่วงชิงตำแหน่ง ล้มแชมป์ จากพรรคเพื่อไทย เดิม มี 3 ที่นั่ง จาก ทั้งหมด 4 เขตเลือกตั้ง โดยส่วนของ พรรคเพื่อไทย มี ดร.มนพร เจริญศรี หรือ ส.ส. เดือน ส.ส. เขต 2 พรรคเพื่อไทย ในฐานะแชมป์เก่า เป็นกุนซือ นำทีมสู้ศึก ทำให้สามารถรักษาแชมป์ไว้ได้เพียง 2 ที่นั่ง ด้วยคะแนนนิยมส่วนตัว รวมถึงคะแนนนิยมพรรคเพื่อไทย ที่ชาวบ้านมีความเชื่อถือ การขับเคลื่อนนโยบายสำเร็จ ตลอดมาในช่วงเป็นรัฐบาล
อีกทั้ง ส.ส. เดือน ยังมีผลงานมาตลอด 4 ปี เกี่ยวกับการสะท้อนปัญหาของพี่น้องประชาชน ในการทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตลอด 4 ปี โดยเพาะการเสนอรัฐบาล แก้ไขปัญหายาเสพติด รวมถึงลดค่าครองชีพ และแก้ไขปัญหาราคาผลผลผลิตการเกษตรตกต่ำ ทำให้เป็นที่ยอมรับเรียกคะแนนนิยมจากประชาชน ในเขตเลือกตั้งที่ 2 ท่วมท้น ได้คะแนนมากถึง 39,800 คะแนน ชนะคู่แข่งเกือบ 10,000 คะแนน ส่วนคะแนน ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้มากกว่า 50,000 คะแนน ในเขตเลือกตั้งที่ 2
แต่ยอมรับว่า ถึงแม้พรรคเพื่อไทย จะชชนะเลือกตั้ง ในเขต 1 -2 แต่ต้องเสียแชมป์ ในเขตเลือกตั้งที่ 3 -4 เนื่องจากคะแนนนิยมผู้สมัคร น้อยกว่าคะแนนนิยมพรรคเพื่อไทย ทำให้ พรรคภูมิใจไทย ชนะการเลือกตั้ง ทั้ง 2 เขต ด้วยคะแนนนิยมส่วนตัว เพราะเป็นการเลือกตั้ง แบบบัตร 2 ใบ อย่างไรก็ตาม หลังการจัดตั้งรัฐบาล ถือเป็นเรื่องดี ทำให้ จ.นครพนม มี ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ทั้ง 4 เขต แยกเป็น พรรคเพื่อไทย 2 เขต และ พรรคภูมิใจไทย 2 เขต
สำหรับประวัติเส้นทางการเมืองของ ดร.มนพร เจริญศรี หรือ ส.ส. เดือน ส.ส. เขต 2 พรรคเพื่อไทย ปัจจุบัน อายุ 57 ปี จบชั้นประถมศึกษา ที่โรงเรียนสุนทรวิจิตร อ.เมือง จ.นครพนม จบชั้นมัธยมศึกษา ที่ โรงเรียนนครพนมวิทยาคม อ.เมือง จ.นครพนม วิทยาลัยนานาชาติเซ็นต์เทเรซ่า เลขานุการ กรุงเทพมหานคร ปริญญาตรี ศิลปศาสตร์บัณฑิต สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง กรุงเทพมหานคร ปริญญาโท ศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง กรุงเทพมหานคร ปริญญาเอก ศิลปศาสตร์ดุษฏีบัญฑิต สาขาสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก กรุงเทพมหานคร
ส่วนประสบการณ์ทางการเมือง เคยดำรงตำแหน่ง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม เขตอำเภอเมือง 2 สมัย มาตั้งแต่ปี 2537 เป็นรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม 2 สมัย เป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม 1 สมัย ต่อมา 2554 ได้รับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนครพนม เขตเลือกตั้งที่ 2 สังกัดพรรคเพื่อไทย รวมแชมป์ 3 สมัย โฆษกคณะกรรมาธิการ การพัฒนาการเมือง และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฏร โฆษกคณะกรรมาธิการ พุทธศาสนาศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร เลขานุการคณะกรรมาธิการ การคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร รองเลขาธิการ พรรคเพื่อไทย เลขานุการ วิปพรรคร่วมฝ่ายค้าน ในสภาผู้แทนราษฎร ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดนครพนม (กพสจ.) ตำแหน่งล่าสุด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนครพนม เขตเลือกตั้งที่ 2 พรรคเพื่อไทย รมช.คมนาคม
ด้าน มนพร เจริญศรี หรือ ส.ส. เดือน ส.ส. เขต 2 พรรคเพื่อไทย และ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ต้องกราบขอบคุณพี่น้องประชาชน ทุกคน ที่ให้การสนับสนุน เป็นกำลังใจตลอดมา ในการทำหน้าที่ผู้แทนตลาดล่าง ยืนยันว่า ตำแหน่ง รมช.คมนาคม ที่ได้มาไม่เคยช่วงชิงอำนาจทางการเมือง แต่มั่นใจว่า พรรคเพื่อไทย นายกรัฐมนตรีเห็นผลงาน ตลอดการทำหน้าที่ตัวแทนพี่น้องประชาชนที่ผ่านมา ที่สำคัญการรับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วย กระทรวงคมนาคม ไม่ใช่รางวัล หรือโบนัสสำหรับตนเอง แต่เป็นตำแหน่งที่ตนจะต้องพิสูจน์การทำงาน ต้องทำงานหนักมากขึ้น เพื่อให้คุ้มค่ากับภาษีประชาชน ยืนยันพร้อมที่จะขับเคลื่อนนโยบายพรรคเพื่อไทย ให้สำเร็จ ร่วมกับคณะรัฐมนตรี และ ส.ส. ทุกคน เนื่องจากสถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบัน สิ่งสำคัญ จะต้องก้าวข้ามความขัดแย้ง เพื่อให้ประเทศชาติบ้านเมือง เดินไปข้างหน้า ในทางที่ดีขึ้น
มนพร กล่าวอีกว่า สิ่งที่จะต้องคำนึงตลอดเวลา สำหรับ การเมืองวันนี้ เป็นการเมืองที่ต้องก้าวทันโลก ทันสมัยกับการเปลี่ยนแปลงที่ รวดเร็วของวิถีชีวิต ประชาชน กับการคาดหวังที่ประชาชนเลือกนักการเมืองเข้ามาบริหารประเทศ จากการเลือกตั้งที่ผ่านมาประชาชนยังคงยึดแนวการเลือกนักการเมืองที่ยึดถือ อุดมการณ์ประชาธิปไตย โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง การเมืองในเชิงอุดมการณ์ ผสมผสานกับการเมืองในเชิงนโยบายที่ประชาชนคาดหวังจากนโยบายของพรรค ที่จะทำให้วิถีชีวิตของพวกเขาดีขึ้น การเมืองที่ดีควรจะเป็นการเมืองที่ทำให้พี่น้องประชาชน มีส่วนร่วมในทุกๆ บริบททางสังคม และรวมไปถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย
“มั่นใจว่า นับตั้งแต่พรรคไทยรักไทย โดย ดร.ทักษิณ ชินวัตร ต่อมาเป็นพรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย โดย ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นโยบายทุกนโยบายที่พรรคนำเสนอต่อพี่น้องประชาชนในแคมเปญการ เลือกตั้ง เมื่อพรรคชนะการเลือกตั้งแล้วได้เป็นรัฐบาล นโยบายที่ได้ให้สัญญา ไว้ต่อพี่น้องประชาชน พรรคเพื่อไทยจึงลงมือทำทันที จนกระทั้งได้รับความ เชื่อมั่น มาจนถึงปัจจุบันนี้ สิ่งสำคัญเชื่อว่าประชาชนอยากเห็นนักการเมืองที่มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ อยู่ใกล้ชิดพี่น้องประชาชน” มนพร ระบุ