ไม่พบผลการค้นหา
รอน เดอซานติส ผู้ว่าการมลรัฐฟลอริดา ประกาศยุติการชิงการเป็นตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน ในการลงรับเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก่อนการเลือกตั้งขั้นต้นในมลรัฐนิวแฮมป์เชียร์ พร้อมกันกับการประกาศสนับสนุน โดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากเดอซานติสถูกมองว่าเป็นคู่แข่งคนสำคัญของทรัมป์ก่อนหน้านี้

“เป็นที่ชัดเจนสำหรับผมว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งหลักของพรรครีพับลิกันส่วนใหญ่ต้องการให้โอกาส โดนัลด์ ทรัมป์ อีกครั้ง” เดอซานติสระบุในวิดีโอที่โพสต์บน X เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (21 ม.ค.) ก่อนการเลือกตั้งขั้นต้นในมลรัฐนิวแฮมป์เชียร์ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันอังคารนี้ (23 ม.ค.)

2024-01-22T015652Z_1200759560_RC2PM5AW6HDK_RTRMADP_3_USA-ELECTION-TRUMP.JPG

เดอซานติสยังได้วิจารณ์ นิกกี้ เฮลีย์ อดีตเอกอัครราชทูตสหประชาชาติ และคู่แข่งที่มีคะแนนนิยมใกล้เคียงที่สุดของเขาในการชิงการเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกัน โดยเดอซานติสกล่าวว่าพรรครีพับลิกัน “ไม่สามารถกลับไปเป็นผู้พิทักษ์รีพับลิกันคนเก่าในอดีตได้ ซึ่งเป็นรูปแบบใหม่ของระบอบของค์กรนิยมที่อบอุ่นมากกว่าที่ นิกกี้ เฮลีย์ เป็นตัวแทน”

เดอซานติสประกาศลงท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2567 พร้อมกับข้อได้เปรียบที่สำคัญในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสู้กับทรัมป์ และการสำรวจเบื้องต้นในช่วงต้นชี้ให้เห็นว่า เดอซานติสมีคะแนนนิยมที่แข็งแกร่ง และสามารถระดมเงินทุนได้มากกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 3.5 พันล้านบาท) พร้อมกันกับนโยบายการต่อต้าน การทำแท้ง และการสอนประเด็นเรื่องเชื้อชาติและเพศสภาพในโรงเรียน ซึ่งได้รับการสนับสนุนในหมู่คนหัวอนุรักษ์นิยม

อย่างไรก็ดี เดอซานติสประสบกับปัญหาทางเทคนิค และการเปลี่ยนแปลงทีมงานของตัวเองในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง นอกจากนี้ เดอซานติสยังแพ้การลงคะแนนเสียงเบื้องต้นในมลรัฐไอโอวา ซึ่งเขามั่นใจว่าตัวเองจะชนะ แต่ทรัมป์กลับชนะเขาไปด้วยคะแนนห่างมากกว่าถึง 30% 

นอกจากนี้ อนาคตทางการเมืองของเดอซานติสยังถูกตั้งคำถาม จากที่เขาระงับการท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี หลังจากการแข่งขันลงคะแนนเสียงขั้นต้นเพียงครั้งเดียว นอกจากนี้ เดอซานติสในวัย 45 ปียังเหลือระยะเวลาที่จำกัดในการดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าการมลรัฐฟลอริดา

เดอซานติสได้รับความคาดหวังอย่างเป็นวงกว้างว่า เขาจะเป็นผู้ท้าชิงคนสำคัญของทรัมป์ ส่งผลให้ทรัมป์คอยวิจารณ์และกล่าวโจมตีเดอซานติสยังรุนแรงในช่วงหลายเดือน ก่อนที่เดอซานติสจะประกาศการเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกันในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา และทรัมป์ยังคงโจมตีเดอซานติสต่อไปตลอดช่วงการหาเสียง บนโซเชียลมีเดีย และบนการโฆษณาแบบเสียค่าใช้จ่ายในเดือนต่อๆ มา

อย่างไรก็ดี ปัญหาในการสู้ศึกเลือกตั้งของเดอซานติสอาจเกิดจากตัวเขาเอง เดอซานติสกลับประชาสัมพันธ์ตัวเขาเองบนโซเชียลมีเดียอย่างผิดพลาด เขายังล้มเหลวในการเข้าถึงฐานเสียงแบบเป็นการส่วนตัว เดอซานติสยังประสบกับปัญหาการเงิน หลังจากเขาต้องเลิกจากทีมงานหาเสียงกว่า 40 คน เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการรณรงค์หาเสียง 

หลังจากการถอนตัวออกจากการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2567 นี้ เดอซานติสต้องกลับไปมุ่งความสนใจอยู่ที่วาระที่เหลือและวาระสุดท้ายของเขาในฐานะผู้ว่าการมลรัฐฟลอริดา ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือน ม.ค. 2570


ที่มา:

https://www.aljazeera.com/news/2024/1/21/ron-desantis-drops-out-of-us-presidential-race-endorses-trump?fbclid=IwAR0zH2POfHxGdBmWbpWQ3cposTrAo5biwyOlXQ8adeD-rumdR2Bxz4fF2B4