“เป็นที่ชัดเจนสำหรับผมว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งหลักของพรรครีพับลิกันส่วนใหญ่ต้องการให้โอกาส โดนัลด์ ทรัมป์ อีกครั้ง” เดอซานติสระบุในวิดีโอที่โพสต์บน X เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (21 ม.ค.) ก่อนการเลือกตั้งขั้นต้นในมลรัฐนิวแฮมป์เชียร์ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันอังคารนี้ (23 ม.ค.)
เดอซานติสยังได้วิจารณ์ นิกกี้ เฮลีย์ อดีตเอกอัครราชทูตสหประชาชาติ และคู่แข่งที่มีคะแนนนิยมใกล้เคียงที่สุดของเขาในการชิงการเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกัน โดยเดอซานติสกล่าวว่าพรรครีพับลิกัน “ไม่สามารถกลับไปเป็นผู้พิทักษ์รีพับลิกันคนเก่าในอดีตได้ ซึ่งเป็นรูปแบบใหม่ของระบอบของค์กรนิยมที่อบอุ่นมากกว่าที่ นิกกี้ เฮลีย์ เป็นตัวแทน”
เดอซานติสประกาศลงท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2567 พร้อมกับข้อได้เปรียบที่สำคัญในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสู้กับทรัมป์ และการสำรวจเบื้องต้นในช่วงต้นชี้ให้เห็นว่า เดอซานติสมีคะแนนนิยมที่แข็งแกร่ง และสามารถระดมเงินทุนได้มากกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 3.5 พันล้านบาท) พร้อมกันกับนโยบายการต่อต้าน การทำแท้ง และการสอนประเด็นเรื่องเชื้อชาติและเพศสภาพในโรงเรียน ซึ่งได้รับการสนับสนุนในหมู่คนหัวอนุรักษ์นิยม
อย่างไรก็ดี เดอซานติสประสบกับปัญหาทางเทคนิค และการเปลี่ยนแปลงทีมงานของตัวเองในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง นอกจากนี้ เดอซานติสยังแพ้การลงคะแนนเสียงเบื้องต้นในมลรัฐไอโอวา ซึ่งเขามั่นใจว่าตัวเองจะชนะ แต่ทรัมป์กลับชนะเขาไปด้วยคะแนนห่างมากกว่าถึง 30%
นอกจากนี้ อนาคตทางการเมืองของเดอซานติสยังถูกตั้งคำถาม จากที่เขาระงับการท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี หลังจากการแข่งขันลงคะแนนเสียงขั้นต้นเพียงครั้งเดียว นอกจากนี้ เดอซานติสในวัย 45 ปียังเหลือระยะเวลาที่จำกัดในการดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าการมลรัฐฟลอริดา
เดอซานติสได้รับความคาดหวังอย่างเป็นวงกว้างว่า เขาจะเป็นผู้ท้าชิงคนสำคัญของทรัมป์ ส่งผลให้ทรัมป์คอยวิจารณ์และกล่าวโจมตีเดอซานติสยังรุนแรงในช่วงหลายเดือน ก่อนที่เดอซานติสจะประกาศการเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกันในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา และทรัมป์ยังคงโจมตีเดอซานติสต่อไปตลอดช่วงการหาเสียง บนโซเชียลมีเดีย และบนการโฆษณาแบบเสียค่าใช้จ่ายในเดือนต่อๆ มา
อย่างไรก็ดี ปัญหาในการสู้ศึกเลือกตั้งของเดอซานติสอาจเกิดจากตัวเขาเอง เดอซานติสกลับประชาสัมพันธ์ตัวเขาเองบนโซเชียลมีเดียอย่างผิดพลาด เขายังล้มเหลวในการเข้าถึงฐานเสียงแบบเป็นการส่วนตัว เดอซานติสยังประสบกับปัญหาการเงิน หลังจากเขาต้องเลิกจากทีมงานหาเสียงกว่า 40 คน เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการรณรงค์หาเสียง
หลังจากการถอนตัวออกจากการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2567 นี้ เดอซานติสต้องกลับไปมุ่งความสนใจอยู่ที่วาระที่เหลือและวาระสุดท้ายของเขาในฐานะผู้ว่าการมลรัฐฟลอริดา ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือน ม.ค. 2570
ที่มา: