ไม่พบผลการค้นหา
'สุดารัตน์' เหน็บก๊วน ส.ส.เอื้ออาทร คสช. แถมมี ส.ว.เอื้อพวกพ้องเป็นตัวช่วยปูทางสืบทอดอำนาจ จี้บางพรรคอย่าลืมที่เคยสัญญากับประชาชน ด้านหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เรียกร้องรวมเสียงในสภาล่าง 377 เสียงต้าน ส.ว. ยกมือโหวตหนุน 'ประยุทธ์' เป็นนายกฯ

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ระบุในทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า ไทยรักไทยทำโครงการเอื้ออาทรเพื่อช่วยผู้มีรายได้น้อย แต่วันนี้มีโครงการใหม่ #สสเอื้ออาทร เพื่อช่วยสืบทอดอำนาจ มี #สสเอื้ออาทรคสช แล้วก็ยังได้แค่ 138 ที่นั่ง เร็วๆ นี้จะออกตัวช่วยเพิ่มคือ #สวเอื้อพวกพ้อง"

"พรรคใดเคยสัญญากับประชาชนไว้อย่างไร ในวันนี้อย่าลืม #ฟังเสียงประชาชน ด้วยนะคะ"

ขณะที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ระบุผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ตอนนี้มีความชัดเจนเรื่องจำนวน ส.ส.ทั้งแบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อที่ กกต.ประกาศรับรองแล้ว 498 ที่นั่ง จาก 500 ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร เพียงพอที่จะทำให้เกิดความชัดเจนทางการเมืองและอนาคตประเทศไทยว่าจะเดินไปทางไหน ส่วนตัวและพรรคอนาคตใหม่ขอให้ทุกท่านนำข้อเสนอที่พูดไว้ก่อนเลือกตั้งเรื่องการปิดสวิตช์ ส.ว. มาผลักดันให้เกิดขึ้นจริง

นายธนาธร ระบุว่า การปิดสวิตช์ ส.ว. คือการที่เราสามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้ในสภาผู้แทนราษฎร ที่มีอยู่ 500 คนโดยไม่ให้ ส.ว. 250 ที่นั่ง ที่ไม่ได้มาจากประชาชนสามารถดำเนินการเลือกแล้วส่งผลต่อผลการเลือกภายในสภาผู้แทนราษฎรให้ไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งได้

"ตอนนี้ 3 พรรคการเมืองที่ประกาศหนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งและต้องการสืบทอดอำนาจ คสช. ได้แก่ พรรคพลังประชารัฐ(115 ที่นั่ง) พรรครวมพลังประชาชาติไทย(5 ที่นั่ง) พรรคประชาชนปฏิรูป(1 ที่นั่ง) รวมแล้ว 121 ที่นั่ง เมื่อบวกกับ 250 ส.ว. แล้วก็จะได้เพียง 371 ที่นั่ง ไม่ถึงกึ่งหนึ่ง(375 ที่นั่ง) ของจำนวนที่นั่งรวมในสองสภา(750 ที่นั่ง) ซึ่งข้อเสนอปิดสวิตช์ ส.ว. ที่เราเคยเสนอไว้ว่ากรณีพรรคที่หนุน พล.อ.ประยุทธ์ มีที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรน้อยกว่า 124 ที่นั่ง นั้นยังสามารถเป็นไปได้"

นายธนาธร ระบุว่า พรรคอนาคคใหม่ขอเรียกร้องให้ประชาชนที่รักประชาธิปไตยกลับไปทวงคำถามสัญญาณที่พรรคการเมืองต่างๆ เคยให้ไว้ก่อนการเลือกตั้งว่าพวกเขาไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์และ คสช. เพราะนี่คือการยับยั้งนายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้มาจากประชาชน ทั้งนี้ พรรคการเมืองทุกพรรคไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหืรอฝ่ายตั้งรัฐบาลสามารถมีส่วนร่วมได้ทั้งหมดโดยโหวตให้นายกรัฐมนตรีที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ ที่รวมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรได้ ก็จะมี 377 เสียงในสภาผู้แทนราษฎรที่พร้อมปิดสวิตช์ ส.ว. ซึ่งมากกว่า 3 พรรคฝ่ายสืบทอดอำนาจบวกกับ ส.ว. 250 คน ทำให้การเมืองประชาธิปไตยเดินหน้าต่อไปได้ จะเป็นบันไดก้าวแรกที่ทำให้ประเทศไทยเดินทางกลับสู่ประชาธิปไตย

โดยหลังจากนี้ พรรคอนาคตใหม่พร้อมและยินดีเดินทางไปพบกับทุกพรรคการเมืองที่มีนโยบายไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์และการสืบทอดอำนาจของ คสช. ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองใด พรรคฝ่ายค้าน พรรคจัดตั้งรัฐบาล พรรคฝ่ายประชาธิปไตย เรามีส่วนร่วมกันในการที่จะหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจ คสช. และเปิดประตูบานใหม่สู่ประชาธิปไตย พรรคอนาคตใหม่พร้อมไปพูดคุยกับทุกพรรค เพื่อให้การปิดสวิตช์ ส.ว. เป็นจริงได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง