อนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ผ่านมายังมีประชาชนและผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการเยียวยาและกระตุ้นเศรษฐกิจที่กระทำการทุจริต ดังนั้นกระทรวงการคลังจึงได้มีการจัดตั้งคณะทำงานพิจารณาตรวจสอบข้อมูลเรื่องอุทธรณ์สำหรับโครงการคนละครึ่ง และคณะทำงานพิจารณาตรวจสอบข้อมูลเรื่องร้องเรียนสำหรับโครงการเราชนะอย่างจริงจัง ในกรณีที่มีพฤติกรรมการใช้จ่ายวงเงินตามสิทธิ์ที่ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯ เช่น การแลกวงเงินสิทธิ์เป็นเงินสด เป็นต้น โดยเปิดช่องทางให้ประชาชนสามารถร้องเรียนผ่าน e-mail หรือไปรษณีย์ เพื่อตรวจสอบ รวมทั้งร่วมมือกระทรวงพาณิชย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากพบว่ากระทำความผิดจริงจะดำเนินการระงับสิทธิแอปพลิเคชันถุงเงิน เครื่องรูดบัตรอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังเปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการและกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ติดตาม ตรวจสอบพฤติกรรมดังกล่าวอย่างจริงจัง เนื่องจากการกระทำผิดดังกล่าวขัดต่อวัตถุประสงค์ของรัฐบาลที่ต้องการช่วยเหลือเยียวยา ลดภาระค่าใช้จ่ายของพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ควบคู่ไปกับการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ที่ผู้ค้ารายย่อยและผู้บริการทั่วๆ ไปจะได้ดำเนินกิจกรรมต่อไปได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :