ไม่พบผลการค้นหา
ระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช แจ้งความเอาผิดผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง หลังถูกโพสต์กล่าวหาเกี่ยวกับ ทษช. มีใบสั่งให้ยื่นเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ เดินหน้าเอาเรื่องให้ถึงที่สุด พร้อมแจ้งความเอาผิดผู้สมัคร ส.ส. รปช. ที่ระบุให้ครอบครัวพงษ์พานิช ออกมาขอโทษถึงกรณี ทษช. ส่งรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ

นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช มารดาของร้อยโทปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ปิยะศักดิ์ พ้องเสียง รองสารวัตร สอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "เสาวนิต การสุทธิ์" โพสต์ข้อความแบบเปิดสาธารณะว่า "เช้านี้ ที่ 11 กุมภา 62 ในรายการทีวี ดร.สุขุม นวลสกุล ได้พูดออกอากาศว่า คุณระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช คุณแม่ของ หัวหน้าพรรค ทษช. ชี้แจงว่า ได้โทรคุยกับลูกชายแล้ว ลูกชายบอกว่า “เดิมไม่เคยทราบว่าก่อนว่า จะเสนอพระนามทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ เป็นตัวแทนพรรค เพื่อเป็นนายกรัฐมนตรี แต่เขาสั่งมาให้เสนอพระนามทูลกระหม่อมฯ" ดร.สุขุมแนะนำว่า “การพูดแก้ตัว ของคุณระเบียบรัตน์ ดังกล่าวนี้ ย่อมไม่เป็นผลดีต่อพรรค ทษช. เพราะ เท่ากับมีผู้ครอบงำพรรคได้ เพราะสั่งได้ โดยหัวหน้าพรรคเองยังไม่ทราบมาก่อน มาทราบก็ตอนประชุมพรรคว่า มีการสั่งมาให้คุณระเบียบรัตน์รีบลบโพสต์ถ้อยคำแก้ตัวดังกล่าว ตอกฝาโลงพรรค ทษช. แถมเหยียบลูกชายตัวเองให้ตายสนิท โธ่ ป้าเบียบแกว่งปากหมาหาเสี้ยน” โดยได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อให้ทางตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น สืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด และจะนำเอกสารการรับแจ้งความจาก สภ.เมืองขอนแก่น ไปแจ้งความต่อที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นางระเบียบรัตน์ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ในวันนี้ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ใน 2 ประเด็นคือ มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ เสาวนิต การสุทธิ์ โพสต์ข้อความทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียง และไม่เป็นความจริงตามที่คนโพสต์ระบุ พร้อมทั้งตนเองก็ไม่ได้มีการพูดกับทาง ดร.สุขุม นวลสกุล ตามที่ผู้โพสต์ได้ระบุกล่าวหาแต่อย่างใด ซึ่งส่วนตัวไม่ได้เล่นเฟซบุ๊ก ไม่ได้เล่นโซเชียล แต่คนสนิทได้นำข้อควมดังกล่าวมาให้ดู และปรึกษากับทางครอบครัว และคนสนิท ว่าต้องออกมาดำเนินคดีตามกฎหมายเอาผิดคนโพสต์ เพราะไม่เป็นความจริงและทำให้คนเข้าใจผิด สร้างความเสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียง จึงได้เดินทางเข้าแจ้งความกับทางตำรวจ ให้สืบสวนหาตัวผู้โพสต์มาดำเนินคดีตามกฎหมาย 

นอกจากนี้ยังจะเดินทางไปยื่นเรื่องแจ้งความกับทาง ปอท.ในวันนี้ (14 ก.พ.) ด้วย ซึ่งในส่วนนี้ขอยืนยันว่าไม่เคยพูด หรือให้สัมภาษณ์กับอาจารย์สุขุมตามที่ผู้โพสต์ได้ระบุกล่าวหา หากตนเองพูดจริงก็จะยอมรับอย่างกล้าหาญว่าได้พูดจริง และในทุกวันนี้ไม่เข้าใจว่าทำไมครอบครัวถึงถูกโจมตีและถูกใส่ร้ายป้ายสีอย่างหนัก กระแสการใส่ร้ายกล่าวหามีมาอย่างต่อเนื่อง โดยถ้าตนเองหรือครอบครัวทำจริงก็กล้าที่จะรับผิดชอบกับคำพูดและการกระทำอย่างกล้าหาญ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นไม่เป็นความจริงทั้งสิ้น จึงได้เดินทางเข้าแจ้งความในวันนี้ในเรื่องที่หนึ่ง

และในส่วนอีกกรณีหนึ่งที่เข้าแจ้งความเป็นคดีที่ 2 คือ มีนายวิระศักดิ์ สายทอง ผู้สมัคร ส.ส.เขต 9 จ.ขอนแก่น เบอร์ 13 พรรครวมพลังประชาชาติไทย ได้ชูป้ายและแจกแถลงการณ์ ถึงกรณีของบุตรชาย และใช้ถ้อยคำตำหนิติเตียน ใจความว่า มัวแต่สั่งสอนคนอื่น ไม่สั่งสอนลูกตัวเอง และรู้ได้อย่างไรว่า ตนเองและลูกมีความสัมพันธ์กันอย่างไร ในวันนี้จึงตัดสินใจเดินทางมาแจ้งความ เพราะตนเองถูกรุกรานก่อน ทั้งที่อยู่เฉยๆ ไม่เคยไปรุกรานใคร และขอบคุณพี่น้องชาวขอนแก่นที่แสดงความห่วงใยมาถึงครอบครัวของตน 

และในส่วนผู้ที่ไม่หวังดีใช้ถ้อยคำหยาบคายและรุนแรงโจมตีตนเองและครอบครัว ก็อยากจะบอกว่าส่วนตัวไม่ได้โกรธเคือง แต่จำเป็นต้องดำเนินคดีเพื่อปกป้องสิทธิของตนเอง และขอโทษตัวเองที่ทำให้ประชาชนไม่เข้าใจ หรือเข้าใจผิด จนทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นมาได้ ซึ่งตนเองก็จะไม่ท้อถอยจะเดินหน้าทำคุณงามความดีต่อไป ในส่วนของลูกชายตนเองภูมิใจเสมอในสิ่งที่ลูกชายทำ เพราะทำเพื่อแผ่นดินและบ้านเมืองมาเสมอ ซึ่งจริงๆ วันนี้ไม่อยากจะแจ้งความ แต่หากไม่แจ้งก็จะมีผลกระทบต่อพรรคไทยรักษาชาติ และตนเองก็จะถูกกล่าวหาทั้งที่ไม่เป็นความจริงตามที่ผู้โพสต์ระบุในข้อความนั้น