นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงลงพื้นที่ได้พบกับ อสม.ที่ยังทำหน้าที่ป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19อย่างเข้มแข็ง แม้ว่าสถานการณ์จะดีขึ้นมากแล้วก็ตาม แต่ อสม.ยังทำหน้าที่ตามปกติ คัดกรอง วัดไข้ แจกเจลฆ่าเชื้อหน้างานศพ ตลาดนัด และทุกกิจกรรม ไม่ยอมให้การ์ดตกอย่างเด็ดขาด ถือว่าเป็นการปฎิบัติหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม ควรแก่การยกย่องในฐานะด่านหน้าของการต่อสู้กับเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ชนบท ถ้าไม่มีองค์กร อสม.ในวันนี้ ก็ไม่มั่นใจว่าเราจะรับมือกับไวรัสโควิด-19ได้มากน้อยแค่ไหน ต้องขอขอบคุณผู้คิดวางระบบสาธารณสุขของไทยในอดีตที่ผ่านมา 

จนถึงสมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย ได้ให้ความสำคัญสถาปนา วัน อสม.แห่งชาติ ขึ้นมา เพื่อทำงานในลักษณะจิตอาสา โดยไม่มีค่าตอบแทน แต่สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จึงมีนโยบายกำหนดค่าตอบแทนให้แก่ อสม.เดือนละ 600 บาท เป็นครั้งแรก จนต่อมารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เพิ่มค่าตอบแทนขึ้นมาเป็นเดือนละ 1,000 บาทในปัจจุบัน และจากสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทุกฝ่ายได้ชื่นชม อสม.ในการปฎิบัติหน้าที่ได้ดีที่สุด ตนจึงได้เสนอปรับค่าตอบแทน อสม.เป็นเดือนละ 1,500 บาทต่อรัฐบาล

ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีระกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ตอบรับข้อเสนอดังกล่าวในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรแล้วว่า จะจ่ายค่าป่วยการให้เพิ่มคนละ 500 บาท จำนวน 19 เดือน ตั้งแต่เดือนมี.ค. 2563 - ก.ย. 2564 ไปก่อน และจะจัดตั้งเป็นงบประมาณแผ่นดินในทุกๆ ปีต่อไป แต่จนบัดนี้ อสม.ยังไม่ได้รับค่าป่วยการที่รัฐบาลจะจ่ายให้ใน 3 เดือนที่ผ่านมาเลย ในขณะที่กลุ่มอื่นๆ ได้รับการเยียวยาจากรัฐบาลเกือบครบทุกคนแล้ว

จึงอยากเสนอให้รัฐบาลเร่งรัดดำเนินการจ่ายค่าป่วยการให้กับ อสม.โดยเร็วที่สุด เพื่อเป็นขวัญกำลังใจกับคนทำงานหนักอย่าง อสม.ทุกคน