ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมติดตามสถานการณ์โควิด-19 รายวัน พบว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาและคาดว่าถึงสิ้นปีนี้ คนจำนวนมากจะมีแผนเข้าร่วมกิจกรรม งานรื่นเริง ทำให้มีการรวมกลุ่มของมาก เป็นระยะเวลานานในช่วงหนึ่ง จึงฝากเชิญชวนประชาชนเห็นความสำคัญในการตรวจ ATK เพื่อเป็นคัดกรองเบื้องต้นทั้งก่อนและหลังเข้าร่วมกิจกรรม หากเป็นกลุ่มเสี่ยงหรือสงสัย ก็สามารถตรวจ ATK ได้ 2-3 วัน/ครั้ง

ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของตนเองและบุคคลรอบข้าง พร้อมกำชับถึงเอกชน ผู้ประกอบการ ผู้จัดงานทุกประเภทในช่วงนี้ ไม่ว่าจะเป็นงานบุญ งานรื่นเริง งานรวมญาติภายในครอบครัว โดยเฉพาะกิจการและกิจกรรมที่มีความเสี่ยง เช่น ร้านอาหารที่ผู้ใช้บริการสามารถดื่มสุราในช่วงเทศกาลปีใหม่ ในวันที่ 31 ธ.ค. 64 จนถึงเวลา 01.00 น. ขอให้ช่วยรัฐบาลด้วยการปฏิบัติ COVID Free Setting และยึดมาตรการส่วนบุคคล แบบ Universal Prevention อย่างเคร่งครัด โดยต้องระลึกตลอดเวลา “อย่าประมาท การ์ดอย่าตก” เพื่อให้เราทุกคนสามารถผ่านช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ต่าง ๆ นี้ให้ได้ พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรียังฝากขอบคุณผู้ประกอบการ ภาคเอกชนทุกฝ่ายที่ให้ความร่วมมือ ยึดหลักมาตรการ ศบค. อย่างเคร่งครัด ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลมุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มที่ และจะทำให้ดีกว่าเดิม ในการควบคุมการแพร่ระบาดและเดินหน้าเศรษฐกิจไปพร้อมกัน เพราะความมั่นคงด้านสุขภาพของประชาชน คือ ความมั่นคงของประเทศ 

สำหรับวันนี้ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 2,437 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังฯ 2,307 ราย ผู้ป่วยจากการค้นหาเชิงรุก 20 ราย ผู้ป่วยภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 18 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 92 รายและมียอดผู้ที่หายป่วยกลับบ้านแล้ว 3,845 ราย ผู้เสียชีวิต 18 ราย ซึ่งเป็นการตัวเลขผู้เสียชีวิตต่ำสุดในรอบ 6 เดือน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1-25 ธันวาคม 2564 มีผู้เดินทางเข้าประเทศผ่านท่าอากาศยานสะสม 228,534 ราย ซึ่งทุกรายได้ปฏิบัติตามระบบการตรวจหาเชื้อของกระทรวงสาธารณสุขแล้ว มีการตรวจพบการติดเชื้อในระบบ Test & Go 416 ราย คิดเป็น 0.21% ระบบ Sandbox 64 ราย คิดเป็น 0.22% และระบบ Quarantine 166 ราย คิดเป็น 3.50% รวมทั้งหมด 646 ราย คิดเป็น 0.28% จากผู้ที่เดินทางเข้าประเทศทั้งหมด

ธนกร ยังกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีในนามผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยงข้องด้านสุขภาพและความั่นคง เตรียมตรวจความพร้อมของสถานที่ อุปกรณ์ บุคลากร ซักซ้อมระบบคัดกรอง แยกผู้ป่วย และการรายงานระบบข้อมูลตลอด 24 ชั่วโมง อย่างเป็นระบบ รวมทั้งให้ ติดตามการเฝ้าระวังสำหรับผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศทางท่าอากาศยานอย่างเข้มงวด เพื่อลดความเสี่ยงการนำเข้าเชื้อไวรัสให้มากที่สุดด้วย