พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรววกลาโหม กล่าวถึงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หลังวานนี้ที่ประชุมร่วมรัฐสภา มีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญ ตีความร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า หากย้อนกลับไป รัฐบาลสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตลอดซึ่งเป็นนโยบายอยู่แล้ว หน้าที่ของรัฐบาล คือ การเสนอเข้าไปยังสภา จากนั้นก็เป็นขั้นตอนของสภาที่เกี่ยวข้อง ซึ่งไปบอกว่ารัฐบาลไม่จริงใจ ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็คงไม่ใช่ ดังนั้นอย่าเอาไปพันกัน ที่ผ่านมารัฐบาลมีความจริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่จะแก้อย่างไร ก็ไปว่ากันมา ซึ่งเป็นเรื่องของรัฐสภา
นายกรัฐมนตรี ยังย้ำว่า จุดยืนรัฐบาล ก็ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว แต่จะแก้อย่างไรก็ไปว่ากันมา จะถูกต้อง หรือไม่ถูกต้อง ก็ไปว่ากันมา ทุกคนก็มีสติปัญญา และมีความคิดส่วนตัวอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น ส.ส.หรือ ส.ว.เพราะฉะนั้นต้องหาข้อยุติกันให้ได้ ถ้าไม่ได้ก็ต้องผ่านกระบวนการศาล ซึ่งตนไม่มีสิทธิ์ไปสั่งการอะไรตรงนี้ได้ ตนมีหน้าที่นำเสนอเรื่องเข้าไปยังสภาเท่านั้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงแนวคิดของสำนักโฆษกสำนักนายกฯรัฐมนตรีที่ใช้ช่องทางการสื่อสารใหม่ผ่านแอปพลิเคชั่น TikTok ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ ถ่ายอวยพรประชาชนเนื่องในเทศกาลตรุษจีน ว่า อยากเข้าถึงคนทุกคน ทุกระดับ เพราะโลกเปลี่ยนแปลงคนก็ชอบติดตามอะไรใหม่ๆ และสิ่งที่อยู่ในความสนใจ เนื่องจาก อาการออกมาชี้แจงหรือสื่อสารอะไรตรงตรงในช่องทางโซเชียลเช่นการเขียนลงเว็บไซต์หรือใน Facebook คนมักจะเข้าถึงน้อย ทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญ
นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าการใช้แอปพลิเคชั่น TikTok ของตัวเอง จะไม่มีการทำหน้าด้อกแด้กๆ แบบวัยรุ่นทำ แต่อาจจะมีอย่างอื่นประกอบบ้าง เพราะเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องระมัดระวัง
ส่วนในแอปพลิเคชั่น Podcast ก็ยังคงใช้เป็นช่องทางสื่อสารเช่นเดิม เมื่อมีอะไรที่ต้องสื่อสาร เพื่อให้เป็นทางเลือกในการติดตามข่าวสารจากรัฐบาล
ในช่วงท้ายผู้สื่อข่าวได้แซวนายกรัฐมนตรีอเรื่องถึงการเปลี่ยนแสกผม ซึ่งนายกฯ ได้ตอบกลับอย่างอารมณ์ดีว่า ไม่ต้องมายุ่งกับทรงผมผมอีก การแสกผมซ้ายขวาขึ้นอยู่กับกองหนุน และใช้มือชี้ไปที่เส้นผมของตัวเอง พร้อมบอกว่า ถ้าผมฝั่งซ้ายน้อยก็ต้องปัดไปฝั่งขวา ถ้าผมทางขวาน้อยก็ต้องปัดไปทางซ้าย
ก่อนผู้สื่อข่าว จะถามต่อว่า ที่ผมหายไปเพราะไปช่วยราชการใช่หรือไม่ นายกฯ ขำก่อนจะตอบว่า "ใช่" และบอกให้ผู้สื่อข่าวตามไปดูตอนตนเองทำผม ก่อนจะชูนิ้วโป้ง เป็นสัญเยี่ยมแล้วพูดคำว่า "Thank you" ก่อนจะเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :