นับถอยหลังอีกเพียงไม่กี่วันก็จะเข้าสู่เทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2563 ซึ่งในทุกๆ ปี หลายคนจะตั้งเป้าหมายใหม่ในใช้ชีวิต วันนี้ 'ทีมข่าววอยซ์ออนไลน์' จะพาไปล้วงความหวัง ความตั้งใจ ความต้องการในปี 2563 ของประชาชนที่กำลังจะเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพจตุจักร (หมอชิต2) รวมถึงแนวทางให้กำลังใจตัวเอง หลังหลายฝ่ายประเมินว่าปีหน้าภาพรวมเศรษฐกิจอาจจะไม่ได้ปรับตัวดีขึ้นมากนัก

ที่สำคัญ ประชาชนส่วนใหญ่อยากฝากอะไรถึงรัฐบาลและฝ่ายค้านกันบ้าง?

• วัชชัย ศิริวงษ์

เริ่มที่ วัชชัย ศิริวงษ์ อายุ 29 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว บอกว่า ส่วนตัวมีความตั้งใจ อยากจะทำตัวเองให้เป็นประโยชน์กับสังคมและก็คนรอบข้างมากขึ้น ที่ผ่านมาก็พยายามทำมาโดยตลอด เพียงแต่อยากจะทำให้ดียิ่งขึ้นมากกว่าเดิม เพราะมองว่า เราควรจะเป็นผู้รับให้น้อยเป็นผู้ให้ให้มากกว่านี้ดีกว่า

ส่วนแนวทางให้กำลังใจตัวเองท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ิ วัชชัย บอกว่า อย่างแรกเลยคือต้องรู้จักเก็บเงินให้มากขึ้น และซื้อของที่จำเป็น ตัดสินของฟุ่มเฟือยทิ้งไป อะไรไม่สำคัญก็พยายามไม่ใช้

ทั้งนี้วัชชัย บอกว่า อยากให้รัฐบาลและฝ่ายค้านเห็นประโยชน์ของบ้านเมืองเป็นหลัก เห็นปากท้องของประชาขนเป็นหลัก ที่สำคัญต้องสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างเศรษฐกิจให้มากกว่านี้

• พินิจ มาลัยนาค

ด้าน พินิจ มาลัยนาค อายุ 28 ปี อาชีพพนักงานบริษัทเอกชน กล่าวว่า ส่วนตัวมีความหวังและความตั้งใจหลายอย่าง แต่ในปี 2563 ตั้งใจว่าจะพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น และเก็บเงินเยอะขึ้น นอกจากนี้ตั้งใจไปท่องเที่ยวต่างประเทศด้วย โดยไม่ได้กำหนดว่าอยากเก็บเงินให้ได้มากเท่าไหร่ ส่วนที่เที่ยวที่อยากจะไปคือประเทศเวียดนาม

ส่วนแนวทางให้กำลังใจตัวเอง พินิจ บอกว่า เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้อง ใช้เงินอย่างระมัดระวังมากขึ้น สิ่งไหนที่ไม่จำเป็นอาจจะต้องตัดทิ้งไปก่อน ให้ใช้เฉพาะที่จำเป็นจริงๆ

นอกจากนี้อาจจะต้องหารายได้ทางอื่นเพิ่มเข้ามาเสริมรายได้ประจำด้วย ซึ่งอยากให้รัฐบาล และก็ฝ่ายค้านทำอะไรเพื่อคนทำงาน หรือว่าพี่น้องทุกคนให้ค้าขายดีขึ้น เศรษฐกิจดีขึ้น มีสภาพคล่องดีขึ้น และสวัสดิการดีมากกว่านี้

• จารีพร ศรีชัยวรรณ

จารีพร ศรีชัยวรรณ อาชีพธุรกิจส่วนตัว หวังว่าเศรษฐกิจปี 2563 จะดีขึ้น เพราะถ้าเศรษฐกิจดี ทุกคนก็จะมีความสุข ส่วนสิ่งที่อยากจะทำเพื่อตัวเอง ก็คือการพัฒนาตนเอง พัฒนาความรู้เพิ่มเติม เพราะส่วนตัวทำธุรกิจในเรื่องของนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายในประเทศ ถ้าพัฒนาตนเองได้ก็จะเกิดสิ่งดีๆ ให้กับลูกค้าให้เติบโตไปด้วยกัน

ส่วนแนวทางให้กำลังใจตัวเอง จารีพร บอกว่า ถ้าในช่วงนี้ถ้าเราไม่สามารถหาเงินเข้าได้เพียงพอต่อการใช้จ่าย เราก็ควรที่จะลดค่าใช้จ่ายลง หรืออาจจะทำบัญชีรายรับรายจ่าย เพราะจะได้รู้ว่าค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ่ายในแต่ละเดือนใช้อะไรบ้าง จำนวน หรือสัดส่วนมากน้อยแค่ไหน ที่สำคัญต้องลดในสิ่งของฟุ่มเฟือยลงด้วย

ทั้งนี้เชื่อว่ารัฐบาล และฝ่ายค้านทุกคนก็มีหน้าที่เฉพาะเจาะจงอยู่แล้ว คนที่มีตำแหน่งที่สามารถบริหารประเทศจะต้องมีความรู้ความสามารถเพียงพอ แต่ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆ คนที่ปฎิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่

• สมเจตน์ แก้วกลม

สุดท้าย คือ สมเจตน์ แก้วกลม อายุ 48 ปี อาชีพนักงานบริษัทเอกชน บอกว่า ในปี 2563 ส่วนตัวมีความหวังและความตั้งใจ คือ จะทำให้สุขภาพแข็งแรง เพื่อการทำงานที่รออยู่ เพราะหากร่างกายแข็งแรงก็จะมีประสิทธิภาพในการทำงานได้ต่อ

ส่วนความตั้งใจอีกอย่าง คืออยากไปเที่ยวทั่วทุกภูมิภาคในประเทศ หากมีโอกาสและเวลาที่เหมาะสม

โดยสมเจตน์จะให้กำลังใจตัวเอง คือ จะต้องไม่ท้อแท้ และก็ต้องอดทน เพราะการทำงานต้องอาศัยความอดทน ที่สำคัญต้องหมั่นให้กำลังใจตัวเองและก็เพื่อนร่วมงาน รวมถึงผู้บริหาร และผู้หลักผู้ใหญ่ที่บริหารประเทศให้มีกำลังใจอยู่เสมอ แต่ขอให้รัฐบาลและฝ่ายค้านให้รักกันเข้าไว้ ต้องยิ้มแย้ม ขอให้อดทน และให้กำลังใจซึ่งกันและกันด้วยนำพาไปประเทศไปสู่ความเจริญและสงบสุขตลอดปีและตลอดไป

แม้ทิศทางเศรษฐกิจปี 2563 อาจจะไม่ได้สดใสมากนัก เพราะตลอดทั้งปี 2562 ต้องเผชิญความเสี่ยงและผลกระทบรอบด้านทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ แต่ประชาชนส่วนใหญ่ก็ยังคงมีความหวังและความตั้งใจท่ามกลางความเป็นห่วงเล็กๆ เพื่อที่จะเป็นแรงผลักดันในการดำเนินชีวิตให้บรรลุเป้าหมาย

หวังว่าเสียงกระซิบเล็กๆ ของใครบางคนในประเทศนี้จะส่งถึงรัฐบาลและฝ่ายค้าน นำพาประเทศก้าวไปได้อย่างสดใสในปี 2563