ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ลงพื้นที่ตรวจราชการ ณ ที่ว่าการอำเภอซำสูงจังหวัดขอนแก่นซึ่งเป็นเขตเลือกตั้งเขตที่ 2 มีนายเอกราช ช่างเหลา ส.ส. บัญชีรายชื่อ ,นายวัฒนา ช่างเหลา ส.ส.เขต 2 ขอนแก่น ลูกชายนายเอกราช ,นายสมศักดิ์ คุณเงิน ส.ส.เขต7 ขอนแก่น พร้อมด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วม มอบหนังสืออนุญาตให้ทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินหรือ (สปก.4-01)
ร.อ.ธรรมนัส ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ ว่า “วาระสำคัญคือการปิดงบดุลของพรรค ส่วนการเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรคคาดว่าจะอยู่ในวาระอื่นๆ พรุ่งนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค จะเข้าร่วมประชุมและมอบแนวทางการทำงานด้วย
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าตนเองเป็นแคนดิเดตในการชิงตำแหน่งเลขาธิการพรรคนั้น ร.อ. ธรรมนัสระบุว่า “ประเด็นนี้ไม่ทราบแล้วแต่สมาชิกพรรคที่เข้าร่วมประชุม”
เมื่อถามว่า หากมีสมาชิกพรรคเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคพร้อมหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า “ขึ้นอยู่กับว่าเสนอชื่อขึ้นมาแล้วสมาชิกคนอื่นเลือกหรือไม่ แต่หากสมาชิกพรรคให้ความไว้วางใจก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด”
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า หากรับตำแหน่งเลขาธิการพรรคจะมีปัญหากับ อนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เลขาธิการพรรคคนปัจจุบัน หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสยืนยันว่า
“ส่วนตัวผมกับพี่แฮงค์มีความสนิทสนมกันอยู่แล้ว ผมไม่เคยมีปัญหากับพี่แฮงค์ผมไม่เคยมีปัญหากับใครแต่ก็สื่อออกมาว่าเรามีปัญหากัน ยืนยันเราเป็นพี่น้องกัน เมื่อปรับกรรมการบริหารพรรคครั้งนี้แล้วต้องไม่มีกลุ่มก๊วนทางการเมืองในพรรค ทุกคนคือครอบครัวพรรคพลังประชารัฐ และการประชุมวันพรุ่งนี้ จะกำหนดทิศทางในการเลือกตั้งครั้งถัดไปด้วย”
ร.อ.ธรรมนัสกล่าวทิ้งท้ายว่า การปรับโครงสร้างครั้งนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญเพราะจะแสดงให้เห็นว่าพรรคพลังประชารัฐไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ ที่ผ่านมาหลายพรรคมองว่าพรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคเฉพาะกิจ แต่ตลอดระยะเวลาสองปีที่ผมแสดงให้เห็นว่าพรรคพลังประชารัฐ โดยการนำของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค
มีการปรับแผนในการสู้ศึกการเลือกตั้งครั้งถัดไปแน่นอน และตอนนี้มีการวางแผนหลายอย่างและในการประชุมวันพรุ่งนี้ก็ถือว่าเป็นการกำหนดทิศทางและแผนซึ่งจะทำให้เห็นว่าพรรคพลังประชารัฐไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจแต่เป็นสถาบันทางการเมืองที่มั่นคง” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว