เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2566 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.ธัญญพัทธ์ บุญสุข ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว , พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ กับเจ้าหน้าที่ สืบนครบาล ได้ร่วมกันจับกุม
วันชัย แสงอุดม หรือ “แมน” อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 190/23 ซ.ชุมชนหมู่บ้านพัฒนา แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร จ.กรุงเทพ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.1007/2566 ลงวันที่ 26 ต.ค. 66 โดยกล่าวว่า “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์โดยเข้าช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่จำนงให้เป็นทางคนเข้า หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นด้วยประการใดๆ”
พบประวัติต้องโทษกว่า 4 คดี
พฤติการณ์ดังกล่าวคือ Undercover สุดแหวกแนวของชุดสืบสวนนครบาล เมื่อชุดจับกุม “ปลอมตัวเป็นผี” ในเทศกาลวันฮาโลวีนไปจับกุมตัวคนร้าย สืบเนื่องจาก ได้มีคนร้ายซึ่งเป็นอดีตนักโทษคดีจำหน่ายยาเสพติดและพ้นโทษออกมาเมื่อไม่นานมานี้ จากนั้นเจ้าตัวได้เข้าทำงานเป็นพนักงานในร้านอาหารชื่อดังย่านสีลม ซึ่งต่อมาเจ้าตัวได้ออกจากงานไปโดยไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่แล้วดึกสงัดของคืนวันที่ 20 ต.ค. 66 คนร้ายได้กลับมาที่ร้านอาหารอีกครั้งในฐานะ “หัวขโมย” ใช้ชะแลงงัดเข้าไปในร้าน ก่อนจะกวาดทรัพย์สิน แท็บเล็ต จำนวน 5 เครื่อง และคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก 1 เครื่อง รวมความเสียหายกว่าหลักแสนบาท หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนจนทราบว่าคนร้ายเป็นอดีตพนักงานภายในร้าน ชื่อว่า วันชัย แสงอุดม หรือ “แมน” อายุ 32 ปี แต่เจ้าตัวได้หลบหนีไป จึงมีการออกหมายจับในเวลาต่อมา
ซึ่งต่อมา พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. นำกำลังเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. สืบสวนติดตามและได้เบาะแสสำคัญว่า คนร้ายจะไปชมภาพยนตร์ “ธี่หยด” ในคืนวันฮาโลวีน พล.ต.ต.ธีรเดชฯ จึงส่งชุดสืบสวนแฝงตัว แต่งตัวเป็นผีแฝงตัวเป็นพนักงานโรงหนังอยู่หน้าโรงภาพยนต์ ภายในห้างดังย่านพระราม 3 เป็นเวลากว่า 3 ชั่วโมง โดยระหว่างที่คนร้ายได้ซื้อตั๋วภาพยนตร์ “ธี่หยด” และกำลังจะเดินเข้าชมภายในโรงภาพยนตร์ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ขอถ่ายรูป ก่อนแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่เข้าทำการจับกุมตัวคนร้ายตามหมายจับ
ในชั้นจับกุม วันชัยให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า เป็นคนชอบทำอาหารมาก เคยทำงานเป็นเชฟร้านอาหารมาเกือบ 10 ปี จนเมื่อเดือนสิงหาคม ได้สมัครเข้าทำงานเป็นเชฟทำอาหารที่ร้านดังย่านสาทร เป็นเชฟที่นั่นได้ประมาณ 1 เดือน ก็เกิดมีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน จึงตัดสินใจออก จึงเกิดความโกรธแค้น เข้าไปขโมยของในร้านอาหารนั้น โดยได้ไอแพด 5 เครื่อง, คอมพิวเตอร์เซอร์เฟส 1 เครื่อง แล้วเอาไปขายเป็นค่าจ้าง แต่ก็โดนโกง จากนั้นได้หลบหนีจนถูกจับกุม หลังจับกุมตัว ได้นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า การปฏิบัติงานสืบสวนและจับกุมคนร้ายโดยอาศัยช่วงเทศกาลฮาโลวีน เพื่อแยกคนร้ายออกจากสังคมในกรุงเทพฯ เพราะมีมิจฉาชีพมากมายหลากหลายประเภท ขอให้พี่น้องประชาชนทั่วไปโดยเฉพาะผู้ประกอบการร้านค้าต่างๆ เพิ่มมาตรการในการวิเคราะห์พฤติกรรมและตรวจสอบประวัติบุคคล ก่อนที่จะรับเข้าทำงาน หรือหากท่านสงสัยว่าบุคคลที่มาสมัครงานนั้น อาจเป็นมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาทำงาน หรือหากพบว่ามีเบาะแสการกระทำความผิด ท่านสามารถแจ้งมายังเพจ “สืบนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.