ไม่พบผลการค้นหา
ผู้แทนฯ เมียนมาประจำสหประชาชาติ ชูสามนิ้วพร้อมออกแถลงการณ์เรียกร้องนานาชาติขวางกองทัพ-คืนประชาธิปไตย

จอ โม ตุน ทูตเมียนมาประจำองค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้นานาชาติสมาชิกยูเอ็น ไม่ยอมรับการก่อรัฐประหารโดยกองทัพ พร้อมทั้งให้ทุกฝ่าย "ใช้มาตรการใดๆก็ตาม" ที่จำเป็นเพื่อขัดขวางกองทัพ ทั้งคุ้มครองความปลอดภัยของชาวเมียนมา

ทูตเมียนมาระบุว่า ตนกล่าวในฐานะตัวแทนสมัชชาแห่งสหภาพเมียนมา ทั้งเป็นสมาชิกรัฐสภาที่ได้รับการรับเลือกจากพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือ เอ็นแอลดี ของนางอองซาน ซูจี ผู้นำเมียนมาโดยพฤตินัย และผู้ถูกโค้นล้มโดยกองทัพ 

"พรรคเอ็นแอลดีเป็นรัฐบาลจากการเลือกตั้งอย่างชอบธรรมและเหมาะสม และไม่ได้เป็นตัวแทนของกองทัพที่ยึดอำนาจ การก่อรัฐประหารครั้งนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและ ไม่สามารถยอมรับได้ในโลกสมัยใหม่ ตลอดหลายสิบปี กองทัพใช้วิธีรุนแรงที่ไม่สามารถเอ่ยถึงได้ โจมตีกลุ่มชาติพันธุ์และชนกลุ่มน้อย การกระทำเหล่านี้เป็นอาชญากรรมสงครามและอาชญากรรมต่อมนุษยชาติอย่างไม่ต้องสงสัย"

"เราจำเป็นที่ต้องให้ประชาคมนานาชาติร่วมมือให้แข็งกร้าวอย่างที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เพื่อยุติการก่อรัฐประหารโดยกองทัพอย่างเร็วที่สุด เพื่อหยุดยั้งการกดขี่ข่มเหงประชาชาติผู้บริสุทธิ์ เพื่อคืนอำนาจสู่ประชาชน และเพื่อสร้างประชาธิปไตย"

ผู้แทนฯ เมียนมายังระบุในแถลงการณ์ต่อทั้ง 193 ประเทศ อีกว่า กองทัพเมียนมายังคงใช้ความรุนแรงเข้าปราบปรามประชาชนต่อไป ทั้งการยิงและสังหารผู้ประท้วงตามท้องถนน ก่ออาชญากรรมต่อพลเรือน โจมตีรถพยาบาล และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ใช้กฎหมายไม่อันเป็นธรรมจับกุมสมาชิกรัฐสภาซึ่งมาจากการเลือกตั้ง ทั้งออกหมายจับและละเมิดสิทธิมนุษยชนพื้นฐานของชาวเมียนมา

ในช่วงท้ายของการแถลง จอ โม ตุน ยังได้อ่านข้อความคำแถลงเป็นภาษาพม่า พร้อมชูสามนิ้ว อันเป็นสัญลักษณ์เคลื่อนไหวต้านกองทัพ ก่อนได้รับเสียงปรบมือชื่นชมจากทั้งที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ

ท่าทีของผู้แทนฯ เมียนมา กลางวงประชุมยูเอ็นถือว่าเป็นการส่ง "ข้อความ" อันทรงพลังอย่างมาก ทั้งยังออกนอกกรอบด้านการทูตอย่างสิ้นเชิง จากการแสดงจุดยืนไม่สอดคล้องกับท่าทีของรัฐบาลตนเอง

หลังจากนี้ต้องจับตาท่าทีของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน ซึ่งยังคงไม่มีท่าทีอันชัดเจนร่วมกัน โดยบางประเทศอย่างอินโดนีเซีย ได้แสดงออกอย่างชัดเจนถึงการเป็น "กระสวยการทูต" ประสานงานและเรียกร้องให้ชาติสมาชิกอาเซียนร่วมหารือกันอย่างเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหารัฐประหารเมียนมา แต่กลับไม่ได้รับการตอบรับจากชาติสมาชิกอื่นๆ ขณะที่ท่าที่ของรัฐบาลไทย ก็ดูเหมือนจะให้การสนับสนุนการยึดอำนาจโดยกองทัพ

เมียนมา


กองทัพยิงขู่ผู้ประท้วง

ท่าที่ของผู้แทนเมียนมาซึ่งมีขึ้นท่ามกลางที่ประชุมของสมัชชาสหประชาชาติมีขึ้นหลังจากที่เมื่อวันศุกร์ มีรายงานว่ากองกำลังตำรวจและฝ่ายความมั่นคงในนครย่างกุ้ง ยิงปืนขู่เพ่อสลายการชุมนุมของกลุ่มผู้เรียกร้องประชาธิปไตยราว 1,000 คน ซึ่งรวมพลบริเวณย่านเลดัน อันเป็นย่านธุรกิจสำคัญของเมือง เพื่อประท้วงการที่กองทัพแต่งตั้งเจ้าหน้าที่รัฐโดยเฉพาะคณะกรรมการการเลือกตั้งชุดใหม่ซึ่งประกาศให้ชัยชนะของพรรคเอ็นแอลดีเป็นโมฆะ

มีรายงานว่าตำรวจและฝ่ายความมั่นคงยังได้ใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงเข้าสลายผู้ชุมนุมแต่ก็ไม่อาจทำให้ชาวเมียนมาล่าถอย หลายคนยังยืนประท้วงและถือป้ายข้อความต่อต้านกองทัพ ทั้งมีผู้ประท้วงถูกจับกุมอย่างน้อย 1 ราย

รายงานยังระบุว่า ยูกิ คิตะซุมิ ผู้สื่อข่าวอิสระชาวญี่ปุ่น ถูกกองทัพจับกุมและกักขังเป็นการชั่วคราว ก่อ ได้รับการปล่อยตัวในเวลาต่อมา หลังจากที่กองทัพเข้าสลายการชุมนุมในนครย่างกุ้งเมื่อวันศุกร์ นับเป็นผู้สื่อข่าวต่างชาติรายแรกที่ถูกคุมตัวตั้งแต่การรัฐประหาร

เมียนมา


กกต.เมียนมาล้มการเลือกตั้ง

การประท้วงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มีขึ้นหลังจากที่คณะรัฐประหารได้แต่งตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้งชุดใหม่ พร้อมจัดการประชุมกับผู้แทนพรรคการเมืองต่างๆ ในกรุงเนปิดอว์ โดยมีข้อสรุปอย่างเป็นทางการให้การเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือน พ.ย. 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งพรรคเอ็นแอลดีของนางซูจีได้รับชัยชนะนั้นเป็นโมฆะ

กกต. กองทัพ รวมถึงพรรคฝ่ายค้านซึ่งล้วนเชื่อมโยงกัน ให้เหตุผลว่าการเลือกตั้งดังกล่าวมีการฉ้อโกงอย่างรุนแรง แต่กองทัพยังไม่เคยแสดงหลักฐานใดๆถึงการกล่าวอ้าง การประชุมนี้ไม่มีผู้แทนจากพรรคเอ็นแอลดี รวมถึงผู้แทนจากพรรคสันนิบาติแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยรัฐฉานเข้าร่วม

รายงานยังระบุว่า ผู้แทนพรรคการเมืองบางส่วนได้เสนอให้คณะกรรมการการเลือกตั้งยุบพรรคเอ็นแอลดีข ทั้งยังเสนอให้กกต.มีมาตรการต่อพรรคการเมืองที่ไม่ยอมเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ โดยให้ถือว่าพรรคไม่เข้าร่วมไม่ยอมรับการรัฐประหาร ซึ่งประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งคนใหม่ระบุว่า จะนำข้อเสนอเหล่านี้ไปหารือกับพล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่ายน์ ต่อไป

ที่มา: