โยชิฮิเดะ ซุกะ' วัย 71 ปี ซึ่งดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นและเป็นมือขวาของนายกรัฐมนตรี 'ชินโซ อาเบะ' คว้าชัยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย หรือ พรรคแอลดีพี ซึ่งหมายความว่าซุกะกำลังจะกลายเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่นต่อจากอาเบะที่ประกาศลาออกไปโดยปริยาย เนื่องจากพรรคแอลดีพีครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรซึ่งจะมีการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่อย่างเป็นทางการ 16 ก.ย. 2563 โดยหากขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีซุกะจะดำรงตำแหน่งในวาระที่เหลืออยู่ของอาเบะจนถึงเดือน ก.ย. 2564
อาเบะได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 28 ส.ค. ที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ หลังจากที่อยู่ในตำแหน่งมานานเกือบ 8 ปี และถือเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดของญี่ปุ่น ขณะที่ก่อนหน้านี้ซุกะได้ประกาศว่าจะสานต่อนโยบายหลักทางเศรษฐกิจของอาเบะ ที่รู้จักในชื่อ 'อาเบะโนมิกส์'
การเปลี่ยนผ่านผู้นำครั้งนี้ถือว่าเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับญี่ปุ่น ซึ่งเผชิญทั้งปัญหาโควิด-19 และเศรษฐกิจถดถอย รวมถึงปัญหาระยะยาวอย่างการเป็นสังคมผู้สูงอายุและอัตราการเกิดต่ำ ไปจนถึงความท้าทายในเรื่องภูมิศาสตร์การเมือง เช่น การสร้างสัมพันธ์กับผู้คว้าชัยเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 พ.ย. นี้ และการสร้างสมดุลระหว่างความกังวลต่อการรุกคืบพื้นที่พิพาททางทะเลของจีนกับการพึ่งพาทางเศรษฐกิจทวิภาคี
มีการคาดการณ์เช่นกันว่านายซุกะอาจยุบสภาและจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนด โดยเมื่อวันที่ 13 ก.ย. ที่ผ่านมา 'ทาโร อาโซ' รองนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้นำกลุ่มทางการเมืองในพรรคแอลดีพีที่ให้การสนับสนุนนายซุกะเผยว่า อาจมีการเลือกตั้งในเร็วๆ นี้ เนื่องจากมองว่ามีแนวโน้มที่รัฐบาลใหม่จะเผชิญเสียงวิจารณ์ว่าเป็นการตั้งรัฐบาลโดยปราศจากการมอบอำนาจจากสาธารณชน นายอาโซจึงคาดว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่น่าจะประกาศยุบสภา อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายซุกะเลี่ยงที่จะตอบคำถามเรื่องการยุบสภาหากได้เป็นนายกรัฐมนตรี โดยบอกว่าสิ่งที่ประชาชนต้องการมากที่สุดคือการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ไปพร้อมกับการส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
จากลูกชาวไร่สตรอว์เบอร์รีสู่ว่าที่ 'นายกรัฐมนตรี' ของญี่ปุ่น
ซุกะไม่ได้มาจากตระกูลชนชั้นนำทางการเมืองแบบอาเบะ แต่เป็นลูกชายของเกษตรกรไร่สตรอว์เบอร์รีในจังหวัดอาคิตะทางตอนเหนือของประเทศ เริ่มต้นเส้นทางการเมืองด้วยการทำงานรณรงค์หาเสียงการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาไม่นานหลังเรียนจบจากมหาวิทยาลัยโฮเซในกรุงโตเกียว หลังจากนั้นเขาทำงานเป็นเลขาให้สมาชิกรัฐสภาคนหนึ่งของพรรคแอลดีพี ก่อนจะได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นในเมืองโยโกฮามาเมื่อปี 2530 และเป็นสมาชิกรัฐสภาสมัยแรกเมื่อปี 2539
เมื่อปี 2548 นายกรัฐมนตรี 'จุนอิชิโร โคะอิซุมิ' แต่งตั้งซุกะเป็นรัฐมนตรีช่วยอาวุโสด้านกิจการภายในและการสื่อสาร ก่อนที่ปีถัดมาอาเบะซึ่งเข้ามาดำรงตำแหน่งต่อจากโคะอิซุมิจะแต่งตั้งเขาให้เป็นรัฐมนตรีรวม 3 กระทรวงด้วยกันจนถึงปี 2550 และเมื่ออาเบะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งในปี 2555 ก็ได้แต่งตั้งซุกะดำรงตำแหน่งสำคัญอย่างเลขาธิการคณะรัฐมนตรี โดยในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา ซุกะในฐานะมือขวาของอาเบะอยู่ในความสนใจจากการทำหน้าที่แถลงสรุปต่อสื่อ 2 ครั้งต่อวัน และมีชื่อเสียงในการบริหารจัดการระบบราชการที่ซับซ้อนของญี่ปุ่น
ในฐานะผู้ทำหน้าที่หัวหน้าโฆษกของรัฐบาล ซุกะเป็นผู้ประกาศชื่อรัชสมัยใหม่ของญี่ปุ่นเมื่อปี 2562 โดยปัจจุบันภายใต้รัชสมัยของสมเด็จพระจักพรรดิ 'นารุฮิโตะ' ที่มีชื่อว่ารัชสมัย 'เรวะ' หรือ 'ความปรองดองอันงดงาม' ซุกะซึ่งเป็นผู้ประกาศชื่อรัชสมัยก็ถูกตั้งฉายาว่า 'คุณลุงเรวะ'
เมื่ออาเบะประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 28 ส.ค. ที่ผ่านมาจากปัญหาสุขภาพ ซุกะก็ได้รับการคาดหมายว่าน่าจะเป็นตัวเต็งในการชิงชัยเพื่อรับหน้าที่ต่อจากอาเบะ โดยเมื่อซุกะประกาศลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคแอลดีพีอย่างเป็นทางการ ก็ได้รับเสียงสนับสนุนจากกลุ่มการเมืองชั้นนำภายในพรรค และด้วยการสนับสนุนเหล่านี้ก็ทำให้เขาสามารถเอาชนะคู่แข่งอย่าง 'ชิเกรุ อิชิบะ' อดีตรัฐมนตรีกลาโหม และ 'ฟูมิโอะ คิชิดะ' อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ สร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้นำพรรคแอลดีพีคนแรกที่ไม่ได้เป็นสมาชิกกลุ่มการเมืองในพรรคหรือเป็นคนจากตระกูลการเมือง และปูทางไปสู่การขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น
อ้างอิง Reuters / BBC / The Mainichi