ไม่พบผลการค้นหา
ผลการสำรวจของสำนักวิจัยนอร์ทกรุงเทพ พบความวิตกกังวลกับปัญหา ฝุ่น PM 2.5 และเห็นว่าปัญหาดังกล่าวค่อนข้างมีความรุนแรง มีความเชื่อมั่นในการแก้ปัญหาของรัฐบาล

ผศ.ดร.สานิต ศิริวิศิษฐ์กุล หัวหน้าแผนกวิจัย สำนักวิจัย มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ เปิดเผยว่า จากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ระหว่างวันที่ 12 – 14 มีนาคม 2567 จากจำนวน 1,500 ตัวอย่าง โดยเป็นประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศพบว่า คนไทยมี ความวิตกกังวลกับปัญหาฝุ่น PM 2.5 โดยอยู่ในระดับค่อนข้างมากร้อยละ 37.5 อยูในระดับมาก ร้อยละ 28.5 วิตกกังวลน้อย ร้อยละ 25.9 และไม่มวิกตกกังวลร้อยละ 8.0 สำหรับระดับความรุนแรงพบว่าคนไทยส่วนใหญ่เห็นว่าปัญหาฝุ่น pm2.5 มีความรุนแรงอยู่ในระดับค่อนข้างรุ่นแรง ร้อยละ 47.3 รุนแรงมากร้อยละ 30.1 รุนแรงน้อยร้อยละ 14.8 และไม่รุนแรงร้อยละ 4.8

สาเหตุหลักของปัญหาฝุ่น PM 2.5 พบว่าคนไทยส่วนใหญ่คิดว่ามาจากสาเหตุสภาพอากาศ ความแห้งแล้งมากที่สุด ร้อยละ 25.4 รองลงมา การเผาของเกษตรกรและการเผาขยะ ร้อยละ 23.4 ไอเสียจากรถยนต์ ร้อยละ 16.4โรงงานอุตสาหกรรม ร้อยละ 15.8 ฝุ่นควันจากประเทศเพื่อนบ้านร้อยละ 12.5 การก่อสร้างร้อยละ 6.4

วิธีการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 เฉพาะตัว ส่วนใหญ่เลือกใช้วิธีสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันฝุ่น ร้อยละ 69.6 ปิดประตูหน้าต่าง ร้อยละ 41.4 งดทำกิจกรรมนอกอาคาร ร้อยละ 36.6 ติดเครื่องฟอกกาศร้อยละ 35.1 เช็คค่าฝุ่นก่อนออกจากบ้านร้อยละ 32.5 ล้างเครื่องปรับอากาศ ร้อยละ 26.5 และไม่ทำอะไรเลย ร้อยละ 3.5

การให้คะแนนการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ของรัฐบาลชุดปัจจุบัน พบว่าอยู่ในระดับมาก ร้อยละ 16.1 ระดับค่อนข้างมาก ร้อยละ 27.7 ระดับปานกลางร้อยละ 26.1 ระดับน้อยละ ร้อยละ 25.0 และระดับน้อยร้อยละ 15.1 

ความเชื่อมั่นในการแก้ปัญหาของรัฐบาลพบว่าส่วนใหญ่มีความเชื่อมั่น ร้อยละ 48.7 ไม่เชื่อมั่นร้อยละ 25.9 ไม่แน่ใจร้อยละ 25.4