วันที่ 27 พ.ย. สมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจบริเวณริมตลิ่ง อบต.ปากแคว ที่เป็นปัญหากำแพงป้องกันน้ำท่วมตลิ่งทุกๆ ปี หากน้ำล้นทะลักทำให้กำแพงที่ไม่แข็งแรงพังจนชาวบ้านต้องใช้กระสอบทรายทำเป็นที่กั้นน้ำ จึงต้องดูในเรื่องการสร้างกำแพงคอนกรีตป้องกันน้ำทะลักโดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะได้มาติดตามจุดที่เป็นน้ำท่วมในช่วงเย็นวันนี้ซึ่งจะเดินทางมาดู 2-3 จุดที่เป็นปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากของจังหวัดสุโขทัย ก่อนจะเข้าร่วมงานประเพณีลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย
รองนายกฯ ยังกล่าวถึงประเพณีลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟที่จัดขึ้นที่จังหวัดสุโขทัยและวันนี้เป็นวันสุดท้าย ว่า ได้ประเมินไว้ว่าจะมีประชาชนนักท่องเที่ยวมาร่วมงาน 50,000 คนในวันสุดท้ายวันนี้ถือเป็นวันสำคัญเนื่องจากมีกระทงพระราชทานถือเป็นมหามงคลยิ่งสำหรับจังหวัดสุโขทัยและประชาชน ทั้งนี้จากการจัดประเพณีลอยกระทง ตั้งแต่วันที่ 18- 27 พ.ย.รวม 11 วัน คาดจะมีเงินสะพัด 700-800 ล้านบาท ถือเป็นการสนับสนุนซอฟฃท์พาวเวอร์ ตามนโยบายของรัฐบาลด้วย การจัดงานท่องเที่ยวไม่ใช่จัดเหมือนในอดีตแค่ 3-5 วัน แต่ที่สุโขทัยปีนี้จัดประเพณีลอยกระทงถึง 11 วัน จากนั้นนักท่องเที่ยวก็จะเที่ยวต่อไปยังภาคเหนือจังหวัดเชียงใหม่เชียงรายตลอดทั้งเดือนจะมีการจัดเทศกาล เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว ให้นักท่องเที่ยวประชาชนมาจับจ่ายใช้สอย โรงแรมที่พักอาหารการกินทำให้ประชาชนมีงานทำก็จะมีการผลักดันในเรื่องนี้ประกอบกับซอฟท์พาวเวอร์ เข้ามาควบคู่ด้วย
ส่วนในประเด็นการเมืองกรณีที่พรรคก้าวไกลเดินสายฟังความคิดเห็นจากฝ่ายเห็นต่างทางการเมืองเพื่อสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมนั้น สมศักดิ์ กล่าวว่าหากเป็น พ.ร.บ.ก็เป็นเรื่องของ สส.ในสภา คาดว่า ไม่ได้เป็นการขอการสนับสนุน แต่เป็นการตีฆ้องร้องป่าวว่าจะทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ก็เป็นการเมือง และทุกพรรคการเมืองก็เหมือนกัน ทำอะไรก็จะต้องบอกพี่น้องประชาชน ส่วนในเรื่องพ.ร.บ. หรือ พ.ร.ก.ต้องเกี่ยวข้องกับสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น ส่วนอื่นๆ ที่ไปประกาศมองว่าการเมืองก็เป็นแบบนี้
ส่วนจะนำไปสู่ความปรองดองได้จริงหรือไม่ มีการตั้งข้อสังเกตว่าพรรคก้าวไกล อาจจะมีการพ่วงคดีมาตรา 112 เข้าไปด้วยนั้น สมศักดิ์ ปฏิเสธว่า ไม่ทราบไม่ได้เป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง