เว็บไซต์ Myanmar Now สื่อเมียนมารายงานว่าพันตำรวจตรี ตินมินตุน จากกองกำลังตำรวจนครบาลย่างกุ้ง ได้ไลฟ์วิดีโอผ่านเฟซบุ๊ก เปิดเผยว่าได้ตัดสินใจลาออกจากต้นสังกััดแล้ว โดยยื่นหนังสื่อลาออกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เพื่อต้องการแสดงจุดยืนร่วมอารยะขัดขืนต่อกองทัพ นับเป็นนายตำรวจยศสูงสุดที่เคยประกาศร่วมประท้วงรัฐบาลทหาร
นายตำรวจย่างกุ้งระบายผ่านไลฟ์เฟซบุ๊กว่า "ผมไม่ต้องการรับใช้ภายใต้ระบบการปกครองของทหารในปัจจุบัน นั่นคือเหตุผลที่ผมเข้าร่วมเคลื่อนไหวอารยะขัดขืน (CDM) เพื่อแสดงให้เห็นว่าผมอยู่เคียงข้างพี่น้องเจ้าหน้าที่รัฐคนอื่นๆ"
ตินมินตุนยังเผยอีกว่า เขาทำงานอยู่ในหน่วยข่าวกรองตำรวจนครย่างกุ้ง อันเป็นหน่วยซึ่งเคยทำหน้าที่ตรวจสอบความเคลื่อนไหวของนักกิจกรรมทางการเมืองตั้งแต่ปี 2532 แต่ได้ยื่นลาออก เพื่อประท้วงการที่เมียนมากลับสู่การปกครองของทหารอีกครั้ง ซึ่งเขามองว่าเป็นการทำลายอนาคตของประเทศ
"หากระบอบทหารยึดอำนาจการปกครอง เราไม่อาจบรรลุสิ่งที่ต้องการได้ในอีก 20 หรือ 25 ปีข้างหน้า เราจะแพ้อีกครั้ง"
ขณะเดียวในฐานะที่เป็นตำรวจยศสูงสุดที่เข้าร่วมเคลื่อนไหวต้านรัฐประหาร เขามีมุมมองต่อ โทษของตำรวจที่แสดงตนเข้าร่วมประท้วงซึ่งอาจต้องโทษจำคุกสูงสุดถึง 3 ปี ภายใต้กฎหมายวินัยตำรวจว่า "ผมอยากบอกกับเพื่อนตำรวจว่า ให้พวกคุณทำในสิ่งที่คุณเชื่อว่าถูกต้อง"
แม้ว่าก่อนหน้านี้ช่วงต้นเดือนก.พ. มีตำรวจในหลายพื้นที่ของประเทศเข้าร่วมกับกลุ่มผู้ประท้วง แต่อย่างไรก็ตามเมื่อ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา มีรายงานว่า ตำรวจมีส่วนเกี่ยวข้องในการปราบปรามประชาชนอย่างรุนแรง จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตภายในวันเดียวอย่างน้อย 18 ราย
ตินมินตุน ยังกล่าวถึงภาพลักษณ์อันย่ำแย่ของตำรวจในฐานะบทบาทที่ร่วมช่วยเหลือทหารปราบปรามประชาชนว่า "เพื่อนๆ ควรพิจารณาว่า จะมีหน้าไปเจอกับคนรุ่นต่อไปได้อย่างไรหากยังวางตัวเป็นศัตรูกับประชาชนอยู่เช่นนี้"
นอกจากนี้ เขายังพูดถึงอนาคตของตัวเองหลังออกมาแสดงจุดยืนว่า "ถ้าพวกเขาตัดสินส่งผลเข้าคุกก็ช่างเถอะ ปล่อยให้มันเป็นไปตามโชคชะตา นี่คือการเสียสละของผมเพื่อครอบครัวและประเทศของผม .. ผมอยากบอกลูกๆ และสมาชิกในครอบครัวคนอื่นๆ ให้สงบสติอารมณ์ ผมยังไม่ได้คุยเรื่องนี้กับพวกเขา ผมทำไปเพราะไม่สามารถฝืนความรู้สึกตัวเองได้อีกต่อไป"
ทั้งนี้ นอกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจบางนายที่เข้าร่วมการแสดงอารยะขัดขืนแล้ว ช่วงที่ผ่านมามีข้าราชการเมียนมาจากหลายกระทรวง ทั้งด้านสาธารณสุข และพนักงานธนาคารที่เข้าร่วมเคลื่อนไหวต่อต้านเผด็จการทหาร
Myanmar Now ยังอ้างแหล่งข่าวซึ่งเป็นตำรวจร่วมสังกัดจากหน่วยสันติบาลอีกนายว่า ตินมินตุนได้เข้าร่วมส่วนหนึ่งของการแสดงอารยะขัดขืนแล้ว โดยเขาเองก็ต้องการร่วมเคลื่อนไหวด้วย แต่ไม่อาจทำเช่นนั้นได้ เพราะไม่เพียงแต่จะส่งผลให้เขาต้องโทษจำคุกเท่านั้น แต่ยังส่งผลเสียต่อครอบครัวเขาด้วย