ไม่พบผลการค้นหา
นายกรัฐมนตรีขอให้กระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทย ศึกษารายละเอียดคำพิพากษาคำสั่งศาลปกครองสูงสุด จ่ายค่าชดเชยยกเลิกสัญญาโฮปเวลล์เกือบ 12,000 ล้านบาท ส่วนการขึ้นค่ารถเมล์ รัฐบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ชี้เป็นมติคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบก

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แลัวหัวหน้า คสช. กรณีที่ศาลปกครองสูงสุด พิพากษากลับคำพิพากษาศาลปกครองกลาง ให้กระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท) ต้องปฏิบัติตามคำชี้ขาดของตุลาการ โดย รฟท.ต้องคืนเงินชดเชยให้กับบริษัทโฮปเวลล์จากการบอกเลิกสัญญารวมเป็นเงินเกือบ 12,000 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ภายใน 180 วัน ว่าคดีดังกล่าวเป็นผลพวงมาจากการทำงานในอดีตที่ผ่านมายาวนาน และรัฐบาลนี้ต้องแก้ไข

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังคงต้องศึกษารายละเอียดความชัดเจนของคำพิพากษา เพื่อจะหาทางออกเจรจาร่วมกัน โดยให้กระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ชี้แจงรายละเอียดเพื่อเร่งพิจารณา ผลของคำพิพากษา ว่ามีผลอย่างไรบ้าง และจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนอย่างไรต่อไป นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า คดีโฮปเวลล์ เป็นเหตุการณ์ที่เกืดขึ้นในอดีตและรัฐบาลนี้ จำเป็นต้องแก้ไขเหมือนกับอีกหลายปัญหาที่รัฐบาลชุดนี้ต้องแก้ไข เช่น คดีคลองด่าน และอีกหลายคดีที่ไม่อยากเอ่ยถึง

นายกรัฐมนตรียืนยัน รัฐบาลไม่ใช่ผู้ขึ้นค่าโดยสารรถเมล์ ก่อนชี้แจงว่าไม่ได้ขึ้นค่าโดยสารมานานแล้ว

ส่วนกรณีบริษัท ขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด หรือ ขสมก. ขึ้นค่าโดยสารรถเมล์แบบก้าวกระโดด 5-7 บาท จนส่งผลกระทบกับประชาชนจำนวนมาก พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า การขึ้นค่าโดยสารทั้งหมดนั้นเป็นไปตามมติของคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบก ไม่ใช่รัฐบาลไปขึ้นราคาหลังจากมีการเลือกตั้ง แต่เป็นการดำเนินการต่อเนื่องที่คณะกรรมการดังกล่าวพิจารณาขึ้นมา

ทั้งนี้ ต้องติดตามและประเมินผลกระทบเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาด้วย โดยปัจจุบันได้มีการพัฒนาปรับปรุงการบริการให้ดีขึ้น ซึ่งวันนี้มีทั้งรถใหม่ รถเก่าที่นำมาประบปรุงใหม่ ที่ทำต่อเนื่องมาซึ่งทั้งหมดคือความก้าวหน้าในรัฐบาลนี้ และในสิ่งเหล่านี้ต้องมองในเรื่องต้นทุน และการขนส่งมวลชนด้วย ซึ่ง ขสมก.ก็ทราบดี และมีหนี้สินที่ติดค้างอยู่จำนวนมาก และส่งผลกระทบไปยังผู้ประกอบการรถร่วมทั้งหมด 

ซึ่งยืนยันรถเมล์ ขสมก. ไม่ได้ขึ้นค่าโดยสารมาเป็นเวลานานเเล้ว จึงขึ้นอยู่กับคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกที่จะเป็นผู้พิจารณาต่อไป ว่าจะทำอย่างไร เพราะหลายอย่างเป็นเรื่องที่ยังไม่ได้ดำเนินการ แต่ก็มีการนำเสนอข่าวมากมายจนทำให้เกิดความสับสนทั้งเรื่องการเมือง หรือค่าใช้จ่ายต่างๆและถูกตีกลับมาที่รัฐบาล แล้วอย่างนี้จะไปต่อได้อย่างไร รัฐบาลก็ทำหน้าที่ต่อเนื่องจนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นมา ระหว่างนี้ประเทศก็เดินหน้าต่อไปเรื่อยๆไม่ใช่หรือ ดังนั้นการทำงานก็หยุดไม่ได้จึงต้องเข้าใจตรงนี้ด้วย ซึ่งรัฐบาลพยายามที่จะควบคุมสถานการณ์ให้ได้มากที่สุดโดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ