ไม่พบผลการค้นหา
'พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์' แถลงข่าวจับกุม 'กาณฑ์ พงษ์ประภาพันธ์' นักกิจกรรมกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(5) เผยไม่ได้กลั่นแกล้งทางการเมือง ขอความร่วมมือร้านค้าที่ให้ใช้ wifi ฟรี เก็บข้อมูล เพื่อใช้เป็นหลักฐานตรวจสอบย้อนหลัง ด้าน "โบว์ ณัฏฐา" ชี้ "กาณฑ์" ไม่ควรถูกใส่ร้ายในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ทำ

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมด้วย พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น ผบก.ปอท. และ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. ร่วมแถลงข่าวกรณีการจับกุมนาย กาณฑ์ พงษ์ประภาพันธ์ นักกิจกรรมกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(5) โพสต์เฟชบุ๊กเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ในต่างประเทศ

นายพุทธิพงษ์ เปิดเผยว่า คดีนี้ตำรวจกระทำตามพยานหลักฐาน มีการสอบสวนขยายผลและมีการขอหมายจับจากศาล ยืนยันว่าตำรวจไม่ได้ทำเกินขั้นตอนกฎหมาย โดยคดีนี้ให้ตำรวจดำเนินคดีด้วยความเป็นธรรม โดยมีการร่วมมือกัน ในปฏิบัติการปราบปรามเนื้อหาไม่เหมาะสม จับกุมนายกาณฑ์ได้ที่บ้านพัก ซอยอารีย์สัมพันธ์ 3 แขวงสามเสนในพญาไท กรุงเทพฯ เมื่อคืนนี้ (7 ต.ค.) ซึ่งนายกาณฑ์ มีการแสดงความคิดเห็นข้อความที่ไม่เหมาะสมหลายครั้ง ตำรวจมีข้อมูลการสืบสวนตรงนี้อยู่แล้ว วันนี้เป็นตัวอย่างให้สังคม การจะแชร์ หรือเขียนสิ่งใดลงโซเชียล มีกฏหมายควบคุมดูแลอยู่ ...อย่างไรก็ตามประเทศไทยมีเสรีภาพในการโพสต์แชร์ข้อความ แต่ควรใช้วิจารณญาณให้ดี

นายพุทธิพงษ์ ยืนยันว่า ไม่ได้กลั่งแกล้งฝ่ายใด ไม่เลือกข้าง ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่เคยใช้ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ในการกลั่นแกล้งบุคคลหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งทางการเมือง แต่หากพบว่า มีผู้กระทำผิด เจ้าหน้าทีี่ก็ต้องดำเนินคดีทุกกรณี นอกจากนี้ ยังฝากถึงร้านค้าต่างๆ ที่เปิด wifi ให้ลูกค้าใช้ฟรี ขอความร่วมมือให้เจ้าของร้านเก็บข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ไว้ในฐานข้อมูลร้าน 90 วัน ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 26 เพื่อใช้ตรวจสอบย้อนหลัง หากมีผู้กระทำผิดโดยใช้ wifi สาธารณะ ตำรวจจะได้มีข้อมูลเพื่อใช้ในการดำเนินคดี

ด้าน พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า นายกาณฑ์ มีพฤติกรรมติดแฮชแท็กข้อความที่ไม่เหมาะสมในสื่อสังคมออนไลน์ ทั้งนี้นายกาณฑ์ให้การภาคเสธ ยอมรับว่าโพสต์ข้อความจริง แต่ไม่ได้มีเจตนา

'โบว์' ชี้ ภาพตัดต่อ กาณฑ์ไม่ควรถูกใส่ร้ายในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ทำ

ด้าน น.ส.ณัฏฐา มหัทนา แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ระบุผ่านเฟซบุ๊กว่า "กรณีนี้ผู้ไปแจ้งความน่าจะมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนนะคะ เพราะการโพสต์ถึงเหตุการณ์ต่างๆ ในต่างประเทศนั้นไม่ได้มีการพาดพิงถึงใครและไม่ผิดกฎหมาย แต่มีผู้ไม่หวังดีนำภาพบุคคลสำคัญตัดต่อประกอบให้เกิดความเข้าใจผิดว่ากาณฑ์เป็นผู้โพสต์ และนำไปเผยแพร่จนเป็นที่มาของหลักฐานที่นำไปแจ้งความ ซึ่งการตัดต่อภาพให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่นนั้นถือเป็นความผิดตามพรบ.คอมอยู่แล้ว ขอให้เจ้าหน้าที่หาตัวผู้กระทำผิดตัวจริง ทั้งคนตัดต่อและเผยแพร่มาดำเนินคดีให้จงได้"

นอกจากนี้ยังโพสต์อีกว่า "ตอนแรกนึกว่าวันนี้จะเป็นวันแรกที่พอจะมีเวลาได้สะสางธุระ เอารถไปซ่อม ก็งานเข้าซะ .. กาณฑ์เป็นคนที่โบว์พยายามห่างๆ ตลอดเวลา(ไม่ว่าเจ้าตัวจะรู้ตัวหรือไม่) ถ่ายรูปถ้าเลี่ยงได้ยังไม่ยืนติดเลย คอยเอานิวมาคั่น เพราะโบว์เซ็งในความรั่วของกาณฑ์ อยู่ในศาลก็ต้องคอยดุ แต่น้องก็เด็กมากจนถือสาไม่ลง

แน่นอนว่างานนี้พวกเราต้องถูกโยง (กาณฑ์เคยมาเป็นพิธีกรในการชุมนุมกับเราสองครั้งจนได้เป็นจำเลยด้วยกันก่อนยุติบทบาทไป) การสร้างความเกลียดชังต่อฝ่ายตรงข้ามคือยุทธศาสตร์ปกติของพวกเขา เราชินแล้ว

กาณฑ์ไม่ควรถูกใส่ร้ายในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ทำ สิ่งที่กาณฑ์ทำไม่เข้าองค์ประกอบความผิดตาม พรบ.คอม มาตรา14(2) และคนที่ตัดต่อภาพทำผิดต่อกาณฑ์ควรต้องถูกดำเนินคดี"