วันที่ 26 ส.ค. 2565 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ประเมินท่าทีระหว่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาการนายกรัฐมนตรี และ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า พล.อ.ประวิตร ปฏิบัติหน้าที่แทน พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ และข้อห้ามไม่ให้ดำรงตำแหน่งเกิน 8 ปีนั้น ถือเป็นความผิดเฉพาะตำแหน่ง ไม่ใช่เฉพาะตัวบุคคล
ดังนั้น หากพล.อ.ประวิตร จะอาศัยช่วงนี้ยุบสภา ก็ยังมีข้อถกเถียงในทางกฏหมายอยู่ ส่วนตัวเชื่อว่า พล.อ.ประวิตร จะรอจนกว่ากฏหมายเลือกตั้งแล้วเสร็จ ไม่เช่นนั้นจะจัดการเลือกตั้งไม่ได้ และบ้านเมืองจะเข้าสู่ความขัดแย้ง
"ผมเชื่อว่า พล.อ.ประวิตร ไม่ยุบสภา ด้วยข้อกฎหมายที่ไม่ชัดเจน ข้อเท็จจริงไม่มีเหตุอันใดเลยที่จะใช้วิธียุบสภา และกฎหมายเลือกตั้งยังไม่ประกาศใช้ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาล และจะเกิดข้อขัดแย้ง” นพ.ชลน่าน กล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เตรียมตัวหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน ยื่นขอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งคณะหยุดปฏิบัติหน้าที่ไปด้วย นพ.ชลน่าน ตอบว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านเราได้ประชุมปรึกษาหารือกัน ก่อนที่ มงคลกิตติ์ จะแถลงเมื่อวาน ซึ่งเราได้พิจารณาอย่างรอบด้าน
ทั้งนี้ ที่ประชุมของฝ่ายค้านได้ตีตกไป เพราะคำร้องเรื่องนี้อยู่ในศาลแล้ว และแม้ฝ่ายค้านเราแสดงออกชัดเจนเช่นเดียวกับ มงคลกิตติ์ ว่า พล.อ.ประยุทธ์ พ้นสภาพนายกฯ ไปแล้วตามรัฐธรรมนูญ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ กลับไม่ประกาศลาออกตามวาระ พร้อมกับคำสั่งศาลที่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ เป็นเหตุให้ พล อ.ประยุทธ์ ยังอยู่ในตำแหน่งนายกฯ ดังนั้น จึงยังเห็นว่าไม่มีเหตุร้องให้ ครม. พ้นตำแหน่ง
นพ.ชลน่าน ให้ความเห็นต่อกรณี ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม ที่มีการกล่าวอ้างว่ามี ส.ว. เข้าไปเกี่ยวข้องเรื่องการให้สิทธิพิเศษเพื่อช่วยให้ได้รับข้าราชการตำรวจนั้น นพ.ชลน่าน ระบุว่า ตนไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่มองว่าสิ่งที่ควรทำที่สุดคือทำความจริงให้ปรากฏโดยเร็วที่สุด ซึ่งก็ได้ทราบว่า พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ได้เริ่มดำเนินการในส่วนนี้แล้ว โดยการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ
นพ.ชลน่าน ยังมองว่า กรณีที่เกิดขึ้นยังกระทบต่อกระบวนการนิติบัญญัติในภาพรวม เข้าทำนองปลาเน่าตัวเดียวเหม็นทั้งข้อง ซึ่งตนมองว่าไม่น่าจะถึงขนาดนั้น และหากยิ่งประเด็นนี้เกิดขึ้นกับ ส.ส. จะยิ่งเติมเต็มความผิดหวังของประชาชน ดังนั้น ควรเร่งพิสูจน์ความจริงให้ได้
ในส่วนของพรรคเพื่อไทย ได้มอบหมาย ประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย เป็นเจ้าภาพในการตั้งกระทู้ถามสดในรัฐสภาเมื่อวานนี้ แม้จะยังไม่ได้รับความกระจ่างจากคำตอบ แต่ ประเดิมชัย ก็จะนำเรื่องนี้เข้าสู่ชั้นกรรมาธิการ ป.ป.ช. สภาผู้แทนราษฎร เพื่อสืบหาความจริง ถ้าสามารถสอบมาได้จริง ก็จะสามารถคืนความเชื่อมั่นต่อระบบนิติบัญญัติได้
เมื่อถามถึงกรอบเวลาที่ควรจะเป็นในการสืบหาความจริง นพ.ชลน่าน ระบุว่า เป็นกิจการของคณะกรรมการซึ่ง พรเพชร ตั้งขึ้น ตนไม่ขอไปก้าวล่วง แต่เชื่อว่าคณะทำงานจะสามารถเชิญผู้เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลได้ในเร็วๆ นี้