ไม่พบผลการค้นหา
ศาลอาญาฯ พิพากษายกฟ้อง "พานทองแท้" คดีฟอกเงินกรุงไทย หลังศาลพิเคราะห์แล้วพยานหลักฐานฝ่ายโจทก์มีน้ำหนักไม่มากพอจะรับฟังได้

ที่ศาลอาญาคดีทุจริต และประพฤติมิชอบกลางนัดฟังคำพิพากษาในคดีที่นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีฟอกเงิน จากการปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทย จำกัด มหาชน ให้เครือกฤษดามหานคร 

นายพานทองแท้ เดินทางมาถึงศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พร้อมกับครอบครัว ทั้งคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร มารดา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และน.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ นอกจากนี้ยังมีผู้สนับสนุนจำนวนหนึ่งมาให้กำลังใจ โดยนายพานทองแท้ มีสีหน้าเรียบเฉยและระบุสั้นๆ ก่อนขึ้นฟังคำพิพากษาว่า ตื่นเต้นเล็กน้อย แต่ก็ยังมั่นใจ  

สำหรับคดีนี้อัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายพานทองแท้ เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2561 ในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินฉบับที่ 5 พ.ศ. 2558 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 และ 91 จากการที่นายพานทองแท้ รับโอนเงินเป็นเช็คจำนวน 10 ล้านบาทที่มาจากการทุจริตปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทยให้กับเครือกฤษดามหานครเข้าบัญชี 

ซึ่งต่อมาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้พิพากษาคดีทุจริตปล่อยกู้จนถึงที่สุดและมีจำเลยถูกพิพากษาจำคุกหลายราย ส่วนคดีนี้นายพานทองแท้ ให้การปฏิเสธมาตลอดว่า ไม่ได้ทำความผิดตามฟ้อง พร้อมชี้แจงว่า เงิน 10 ล้านบาท ที่ได้รับโอนเข้าบัญชีนั้นมาจากการร่วมลงทุนธุรกิจรถซูเปอร์คาร์  

ภายหลังศาลอ่านคำพิพากยกฟ้องนายพานทองแท้ โดยศาล พิเคราะห์แล้วเห็นว่า พยานหลักฐานของฝ่ายโจทก์ ยังมีน้ำหนักไม่มากพอที่จะรับฟังได้ว่านายพานทองแท้รู้เห็นว่าเงินจำนวน 10 ล้านบาทที่ได้รับโอนมาจากนายรัชฎา เป็นเงินที่มาจากการกระทำความผิดในคดีการปล่อยกู้ 

ขณะที่การเบิกถอนของนายพานทองแท้ หลังจากที่ได้รับเงินมา มีการเบิกถอนอยู่ที่ 5,000 - 20,000 บาท รวม 11 ครั้งซึ่งไม่เป็นพิรุธสามารถตรวจสอบได้ ไม่มีลักษณะเป็นการอำพรางแหล่งที่มา และระหว่างที่จำเลยได้รับเช็คมานั้นอยู่ระหว่างอายุ 26 ปี เพิ่งจบการศึกษาแต่มีทรัพย์สินมากกว่า 4,000 ล้านบาท เงินจำนวน 10 ล้านบาทที่ได้มาเทียบแล้วเป็นเปอร์เซ็นต์แค่ ร้อยละ 0.0025 เท่านั้น

นายพานทองแท้เดินออกมาจากศาลเมื่อเวลา 11.30 น. โดย คุณหญิงพจมาน และนายพานทองแท้มีสีหน้ายิ้มแย้ม แต่ไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวพยายามถามถึงความรู้สึกและเหตุผลที่ศาลยกฟ้อง โดยนายพานทองแท้ระบุเพียงสั้นๆ ว่า ขอบคุณที่ให้กำลังใจและรู้สึกโล่งใจ ก่อนเดินออกจากวงสัมภาษณ์ของสื่อมวลชนไปพร้อมกับครอบครัว   

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรดากองเชียร์ภายหลังทราบว่าศาลยกฟ้องในคดีนี้ ต่างก็รู้สึกดีใจพร้อมตะโกนว่าหมดทุกข์หมดโศกยังไงก็รักชินวัตร

"เอม-อุ๊งอิ๊งค์" โพสต์ขอบคุณทุกกำลังใจที่ให้กับ "พี่ชาย"

หลังจากการอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้น เอม-พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ โพสต์อินสตาแกรมว่า "ขอขอบพระคุณทุกๆ กำลังใจที่ส่งมาให้พวกเรานะคะ วกเราทุกคนรับรู้และซายบซึ้งมากจริงๆ ค่ะ และขอขอบคุณครอบครัวของเราที่อบอุ่นและคอยดูแลประคองความรู้สึกกันตลอด ไม่ว่าคุณแม่ที่อยู่ใกล้หรือรวมถึงคุณพ่อที่อยู่ไกลแต่กำลังใจส่งมาไม่ห่าง ในวันนี้ถือเป็นหนึ่งในข่าวดีที่สุดของครอบครัวเราเลยค่ะ ขอบคุณทุดคนนะคะรวมถึงสื่อมงลชนทุกท่านด้วยนะคะ"


และอุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร โพสต์ข้อความและรูปภาพในอินสตาแกรมส่วนตัว "ขอบพระคุณทุกคนสำหรับทุกกำลังใจที่ให้พี่ชายของเราในวันนี้และที่ผ่านๆ มานะคะ มีมันความหมายจริงๆ สำหรับเรา ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองให้วันนี้มีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นกับครอบครัวของเราค่ะ"



ข่าวที่เกี่ยวข้อง