นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ปัจจุบันที่มีโรงงานหลายแห่งการประกาศปิดกิจการและเลิกจ้างพนักงานเป็นจำนวนมาก เป็นผลมาจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อเป็นลูกโซ่ต่อเศรษฐกิจไทยที่พึ่งพาการส่งออก และส่วนใหญ่โรงงานที่ต้องปิดตัวเป็นรายเล็กเป็นซัพพลายเออร์ ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลพยายามดูแลผลกระทบดังกล่าวมาโดยตลอด ซึ่งหากรัฐบาลไม่มีการออกมาตรการมาดูแลเชื่อว่าจะส่งผลกระทบรุนแรงมากกว่านี้
โดยนายอุตตม เพิ่มเติมว่า เรื่องของเศรษฐกิจกระทบมาเป็นลูกโซ่ เมื่อเศรษฐกิจโลกไม่ดี เราก็จะถูกกระทบเพราะไทยพึ่งพิงการส่งออก ดังนั้นจำเป็นที่จะต้องออกมาตรการมาดูแล เพราะหากไม่มีมาตรการผลกระทบคงรุนแรงมากกว่า ซึ่งในความเห็นส่วนตัวยิ่งต้องออกมาตรการมาช่วย ถ้าปล่อยเป็นไปตามธรรมชาติ ก็จะยิ่งกระทบต่อเศรษฐกิจไทย แต่มาตรการจะหยุดอยู่แค่นี้ไม่ได้ จะต้องทำต่อเนื่อง เพราะถานการณ์โลกยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาธนาคารแห่งประเทศไทย ก็ออกมาตรการและเข้าดูแลอย่างใกล้ชิด โดยมีเป้าหมายคือให้บรรเทาผลกระทบให้ได้มากที่สุด แต่จะให้หมดไปเลยคงทำไม่ได้
ส่วนปี 2563 ที่หลายฝ่ายกังวลว่าสถานการณ์อาจจะแย่ลงไปมากกว่านี้ ทางรัฐบาลเตรียมแผนไว้อย่างไร นายอุตตม ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าสถานการณ์จะข้างหน้าจะเป็นอย่างไร อาจจะยังไม่ดีขึ้น หรืออาจจะดีขึ้นก็ได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ยืนยันว่า รัฐบาลจะมีการติดตามและเตรียมแผนรองรับไว้แล้ว
ส่วนกรณีที่นักวิชาการมีการเสนอแนวทางดูแลเศรษฐกิจ คือ การลดภาษี คล้ายกับที่สหรัฐอเมริการมีการเคยใช้นั้น นายอุตตม ระบุว่า รัฐบาลกำลังดูอยู่หลายเรื่อง แต่จะออกมาตรการที่เหมาะสมกับเศรษฐกิจไทย ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ให้ตรงจุดมากที่สุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง