11 พ.ค. สื่อเกาหลีใต้รายงานพบผู้ติดเชื้อจากย่านอิแทวอนเพิ่มขึ้นเป็น 75 ราย หลังมีผู้ติดเชื้อเข้าไปเที่ยวผับในย่านดังกล่างถึง 5 แห่งเมื่อวันศุกร์ที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้เกาหลีใต้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากที่สุดในรอบ 1 เดือน

พัควอนซุน ผู้ว่าการโซล กล่าวว่า จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่นี้ไม่เพียงแต่อยู่ในโซลเท่านั้นแต่คาดว่าจะกระจายไปทั่วประเทศ โดยมีผู้ติดเชื้อในโซลจากย่านดังกล่าวแล้ว 49 ราย

"ทางรัฐบาลได้ติดตามผู้ที่มาเยือนบริเวณดังกล่าวได้แล้ว 5,517 ราย และสามารถติดต่อพวกเขาได้แล้ว 2,405 ราย รวมถึงการติดตามชาวต่างชาติที่เข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวได้แล้ว 28 รายเช่นกัน" ผู้ว่าการโซล กล่าว

เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาทางรัฐบาลท้องถิ่นของโซลได้ประกาศสั่งปิดผับ บาร์และสถานบันเทิงยามค่ำคืนทั้งหมดในโซลเพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสที่อาจจะเกิดขึ้นอีก

ปัจจุบันเกาหลีใต้มีรายงานผู้ติดเชื้อแล้ว 10,909 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อ 256 ราย

ทางด้านประเทศจีน วานนี้ (10พ.ค.) ก็พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นถึง 17 ราย ซึ่งเป็นจำนวนที่มากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย. เป็นต้นมา

รายงานของทางการจีนนระบุว่า ใน 17 รายนี้ มี 7 รายที่เป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าที่มีเพียง 2 รายเท่านั้น ขณะที่อีก 5 รายเป็นผู้ติดเชื้อในเมืองอู่ฮั่นย ซึ่งเป็นการพบผู้ติดเชื้อที่มากสุดในอู่ฮั่นนับตั้งแต่วันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา

ปัจจุบันจีนพบผู้ติดเชื้อแล้ว 82,918 ราย และมีผูู้เสียชีวิตแล้ว 4,633 ราย

ที่ผ่านมาทั้งจีนและเกาหลีใต้ต่างเป็นประเทศ ที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ได้สำเร็จเป็นประเทศแรกๆ ซึ่งปัจจุบันทั้งสองประเทศได้ยกเลิกมาตรการที่เข้มงวดในการควบคุมการแพร่ระบาดและประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติอีกครั้ง

ขณะที่ประเทศอังกฤษ วานนี้จำนวนผู้ตจิดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นเกือบ 4,000 ราย ส่งผลให้อังกฤษมรีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นแซงหน้าประเทศอิตาลี โดยมีผู้ติดเชื้อแล้วถึง 219,183 ราย และมีจำนวนผู้เสียชีวิตมากที่สุดในยุโรป โดยมีผู้เสียชีวิตในอังกฤษแล้ว 31,855 ราย

นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษออกมากล่าวว่า อังกฤษได้วางแผนในการคลายมาตรการล็อกดาวน์ที่ละขั้นตอน โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยของอัตรการการแพร่ระบาด โดยชี้ว่าอัตราการแพร่ระบาดจะต้องอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 1 ซึ่งปัจจับนอังกฤษมีอัตรการแพร่ระบาดอยู่ที่ระดับ 2 ซึ่งเป็นระดับที่เกือบสูงสุด

นอกจากนี้นายกฯอังกฤษยังกล่าวว่า งานก่อสร้างและสายงานการผลิตควรได้รับอนุญาตให้กลับไปทำงานได้อีกครั้ง แต่ต้องหลีกเลี่ยงการใช้ขนส่งสาธารณะที่แออัด และทั้งนี้หากบริษัทใดยังสามารถทำงานจากที่บ้านได้ก็ให้ทำต่อไป ขณะที่การคลายล็อกดาวน์ในระยะที่ 2 และ 3 นั้น จะอนุญาตให้เปิดร้านค้า และธุรกิจการบริการ รวมไปถึงการกลับไปเรียนในชั้นเรียนต่างๆได้

ปัจจุบันยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกเพิ่มขึ้นถึง 4,180,137 รายและมีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อแล้ว 283,852 ราย

ที่มา worldometers / yonhap /reuters / Euronews