ไม่พบผลการค้นหา
รายงานผลสำรวจประชาชนภาคส่วนต่างๆใน 10 ประเทศของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ระบุ คนส่วนใหญ่ไม่ไว้ใจการลงทุนจากจีน หวั่นนำไปสู่กับดักหนี้ก้อนใหญ่ของแต่ละประเทศ

รายงานของสถาบัน ISEAS-Yusof Ishak ที่เป็นความเห็นจากภาคส่วนต่างๆใน 10 ชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เห็นว่า "เม็ดเงินลงทุนของจีนที่หลั่งไหลเข้ามาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างรวดเร็วจะมาพร้อมๆกับอิทธิพลของจีนที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคนี้ รวมไปถึงความเสี่ยงที่จะทำให้ประเทศต่างๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตกอยู่ในภาวะกับดักหนี้ของจีนในระยะยาว"

นอกจากนี้ภาคส่วนต่างๆของภูมิภาคนี้กว่าร้อยละ 73 ยังเชื่อว่า ' จีน' ยังคงเป็นประเทศมีอิทธิพลทางเศรษฐกิจมากที่สุดในภูมิภาคและยังส่งผลถึงอิทธิพลทางการเมืองและยุทธศาตร์ของภูมิภาคมากกว่าสหรัฐฯอีกด้วย

รายงานจากกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯประจำปี 2018 ประเมินว่า จีนใช้เงินลงทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกกว่า 48,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมาเลเซียก็เป็นประเทศที่ได้รับเงินลงทุนในภาคเศรษฐกิจการเงินมากที่สุดในภูมิภาคนี้ในรอบ 16 ปี จากการลงทุนโครงการรถไฟและโครงการระเบียงเศรษฐกิจดิจิทัล

นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯกล่าวเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2018 ที่ผ่านมาในการประชุมความร่วมเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC)ว่า "โครงการต่างๆในตามยุทธศาสตร์หนึ่งแถบหนึ่งทางที่ได้รับการสนับสนุนจากจีนส่วนใหญ่เป็นโครงการที่ไม่ยั่งยืนและมีคุณภาพต่ำ และโครงการส่วนใหญ่ก่อให้เกิดกับดักหนี้ก้อนใหญ่ในแต่ละประเทศ"

อย่างไรก็ตามเมื่อช่วงปลายปี 2018 ที่ผ่านมาในมาเลเซียรัฐบาลชุดใหม่ของดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัดมีมติสั่งยกเลิกโครงการลงทุนจากแผนยุทธศาสตร์หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีนในมาเลเซียที่มีมูลค่าการลงทุนเป็นเงินจำนวน 22 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งโครงการดังกล่าวรวมไปถึงเส้นทางรถไฟสายตะวันออกของมาเลเซียและการขุดเจาะแก็สธรรมชาติ 2 แห่งในมาเลเซีย ซึ่งทางรัฐบาลมาเลย์ฯให้เหตุผลของการยกเลิกโครงการเกิดจากควาไม่พร้อมทางสถานะการเงินของมาเลเซียเองและมาเซียไม่อยากสร้างภาระหนี้ภายในประเทศเพิ่มจากการลงทุนที่ไม่จำเป็น

ทั้งนี้เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมารัฐบาลเมียนมาได้ลงนามรับข้อเสนอการลงโครงการท่าเรือในรัฐยะไข่ ทางตอนใต้ของเมียนมาที่มีมูลค่าการลงทุนกว่า 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในการลงทุนภายใต้แผนยุทธศาสตร์หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน แต่ทั้งนั้นได้มีการเรียกร้องถึงความกังวลในเรื่องการลงทุนและการชำระหนี้ของรัฐบาลเมียนมาในอนาคต จึงส่งผลให้ทางจีนยื่นข้อเสนอลดเงินลงทุนในระยะเเรกเป็นเงิน 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯแทน

นอกจากนี้ในประเทศลาว จีนทุ่มเงินกว่า 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในการสร้างทางรถไฟระยะทางกว่า 440 กิโลเมตรเพื่อเชื่อมต่อระหว่างจีนสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยผ่านทางชายแดนจีน-ลาว สู่นะคอนหลวงเวียงจันและเชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟของไทย ซึ่งเป็นหนึ่งการเชื่อมการคมนาคมตามยุทธศาสตร์หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีนเช่นกัน ขณะที่ IMF ประเมินว่าโครงการสร้างทางรถไฟจีน-ลาวนี้จะทำให้ลาวมีหนี้ต่างประเทศก้อนใหญ่ ซึ่งในปี 2017 ลาวมีหนี้ต่างประเทศสูงถึง 13,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา Asiancorrespondent / Atimes

ข่าวที่เกี่ยวข้อง