รัฐบาลจีนตอบโต้การค้าอาวุธระหว่าสหรัฐอเมริกาและไต้หวันเมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยยืนกรานต่อต้านการค้าอาวุธดังกล่าว หลังสหรัฐฯ อนุมัติคำขอร้องของรัฐบาลไต้หวันในการอัปเกรดอาวุธยุทโธปกรณ์
จ้าวหลี่เจี้ยน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนกล่าวว่า 'จีนจะใช้มาตรการคว่ำบาตรกับล็อกฮีด มาร์ติน บริษัทค้าอาวุธของสหรัฐฯ'
นอกจากนี้ ทางการจีนยังเรียกร้องให้สหรัฐฯ หยุดขายอาวุธให้กับไต้หวัน รวมถึงตัดความสัมพันธ์ทางการทหารกับไต้หวัน เพื่อหลีกเลี่ยงการทำลายความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ รวมถึงสันติภาพในช่องแคบไต้หวัน
ตามรายงานของสื่อไต้หวันระบุว่า สหรัฐฯ เป็นหนึ่งในผู้ขายอาวุธหลักให้กับไต้หวัน และสัปดาห์ที่ผ่านไต้หวันได้ยื่นคำร้องต่อสหรัฐฯ ให้อัปเกรดขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ โดยประเมินมูลค่าสูงถึง 620 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ทางด้านล็อกฮีด มาร์ตินกล่าวในแถลงการณ์ว่า การค้าอาวุธให้กับกองทัพต่างแดนเป็นขั้นตอนระหว่างรัฐบาลและรัฐบาล และทางล็อกฮีดฯ ทำงานใกล้ชิดกับรัฐบาลสหรัฐฯ ในการขายอาวุธให้กับลูกค้าต่างชาติ การหารือเรื่องการขายอาวุธให้กับรัฐบาลต่างชาตินั้นได้รับคำแนะนำที่ดีที่สุดจากรัฐบาลสหรัฐฯ
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาสื่อทางการจีนรายงานว่า การขายอาวุธให้กับไต้หวันของสหรัฐฯ เป็นการแสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯมีแผนยั่วยุจีนโดยไม่คำนึงถึงปัญหาการจัดการไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศ และจะนำไปสู่ความวุ่นวายและความซับซ้อนในการแก้ปัญหาสันติภาพ
หยางเฉิงจุน ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีขีปนาวุธและยุทธศาสตร์นิวเคลียร์แห่งชาติจีน กล่าวว่า "การขายอาวุธของสหรัฐฯและไต้หวันเป็นสัญลักษณ์และเป็นการมอบความกล้าทางการทหารในทางที่ผิดให้กับไต้หวันมากกว่าจะเป็นการส่งเสริมประสิทธิภาพทางการทหารของไต้หวัน"
อย่างไรก็ตาม ทางการจีนยังไม่ให้รายละเอียดใดๆ ว่าจะคว่ำบาตรหรือตัดความสัมพันธ์กับล็อกฮีด มาร์ตินโดยวิธีใด