ไม่พบผลการค้นหา
‘อนุดิษฐ์’ เลขาฯ เพื่อไทยป้ายแดง ปัด ‘หญิงหน่อย’ คุมพรรค แจงทำงานผสมผสานคนทุกรุ่น ยันแม้กรรมการบริหารจะหน้าใหม่แต่ทุกคนเก๋าเกม ยอมรับกดดัน แต่ม��� ‘ภูมิธรรม’ ให้คำปรึกษา

นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวหลังการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคว่า ขอบคุณสมาชิกพรรคที่ให้ความไว้วางใจ ตำแหน่งนี้มีภารกิจสำคัญ หลังจากนี้จะตั้งใจทำหน้าที่ตามภารกิจของพรรคให้ดีที่สุด ขณะนี้เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อทางการเมือง หลังการรัฐประหารและฉีกรัฐธรรมนูญทำให้บริบททางการเมืองเปลี่ยนแปลงไป และการเลือก ส.ส. ที่ผ่านมา ผู้บริหารของหลายพรรคการเมืองไม่สามารถเข้าไปทำงานในสภาได้ จึงนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงในการเลือกคนที่เข้ามาทำงานเป็นกรรมการบริหารพรรค 

ส่วนแนวทางการทำหน้าที่หลังจากนี้ คิดว่ามี 2 ภาค คือ 1.การทำหน้าที่โดยตรงของ ส.ส. เป็นฝ่ายค้านในสภา ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ตนต้องสนับสนุนการทำงานของ ส.ส. ฝ่ายค้านทั้ง 7 พรรค และ 2. ความเดือดร้อนของประชาชน ตนต้องสนับสนุนสมาชิกอาวุโสของพรรคที่ไม่ได้ไปทำงานในสภา เช่น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย เพื่อรับรู้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในปัจจุบัน

น.อ.อนุดิษฐ์ ชี้แจงว่า พรรคมีการปรับตัวอยู่เสมอ เพื่อทำภารกิจในการตอบสนองจุดประสงค์ของพรรค คือ เป็นที่พึ่งพาของประชาชน ไม่เชิงปฏิรูป แต่เป็นเพียงแค่การปรับตัวให้เข้ากับสังคม โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่พัฒนา และการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไป จึงจำเป็นต้องปรับพรรค 

ปฏิเสธหญิงหน่อยคุมพรรค

ส่วนการเข้ามาทำงานของตน จะเกี่ยวข้องกับการเข้ามาของ คุณหญิงสุดารัตน์ หรือไม่ น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า พรรคทำงานผสมผสานกันของคนหลายช่วงวัย มีทั้งคนรุ่นใหญ่ที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว คนรุ่นกลางที่มีประสบการณ์ และคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพของพรรค ส่วนข้อกังวลว่า กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่เป็นคนหน้าใหม่หมดนั้นย้ำว่าแม้ทุกคนจะเป็นคนรุ่นใหม่แต่เก๋ามีความรู้ประสบการณ์การเมืองจึงมั่นใจว่าจะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อพรรค

น.อ.อนุดิษฐ์กล่าวถึงกระแสข่าวที่พรรคปรับโครงสร้างกรรมการบริหารพรรคใหม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนขั้วของพรรคหรือไม่ว่า คุณหญิงสุดารัตน์ ได้เสียสละทำงานช่วยเหลือพรรคตั้งแต่ได้รับการปลดล็อคสมาชิกพรรคไทยรักไทย 111 คน และช่วงเลือกตั้ง จึงถือว่าคุณหญิงทำงานที่พรรคมาโดยตลอด

ส่วนประเด็นเสียงคัดค้านตนภายในพรรค น.อ.อนุดิษฐ์ มองว่าความเห็นต่างเป็นความสวยงามของประชาธิปไตย ถ้าเห็นด้วยหมดคงจะแปลก แต่อย่างไรก็เป็นมติของเสียงส่วนใหญ่ จึงไม่กังวล เพราะส่วนหนึ่ง นายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตเลขาธิการพรรคยังอยู่ในพรรค และพร้อมให้คำปรึกษาและให้ความรู้กับตน ส่วนเรื่องการเปรียบเทียบในการทำงานระหว่างตนกับนายภูมิธรรม ปฏิเสธไม่ได้ว่าอาจจะกดดัน แต่ตนเองก็ทำงานการเมืองมาเป็น 10 ปี และผ่านงานมาแล้วทุกฝ่าย จึงจะสามารถทนแรงกดดันเหล่านี้ได้ โดยงานแรกของการเป็นเลขาธิการพรรคคือการต่อยอดมรดกของ อดีตหัวหน้าพรรคและอดีตเลขาธิการพรรค และการดูแลแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนผ่านสภาผู้แทนราษฎร ตนจะต้องลำดับความสำคัญในแต่ละเรื่องเพื่อนำมาปฏิบัติ


อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :