เวย์-ปริญญา อินทชัย ศิลปินฮิปฮอป วัย 38 ปี สมาชิกวง ไทเทเนี่ยม ที่ขอออกมาหาประสบการณ์ใหม่ๆ ในการทำงานเพลงเดี่ยว ในนาม DABOYWAY (ดาบอยเวย์) พร้อมควบตำแหน่ง เป็นผู้บริหารคู่กับ พอล สิริสันต์ กรรมการผู้จัดการค่ายเพลง ยูนิเวอร์ซัล มิวสิค (ประเทศไทย) ในฐานะหนึ่งในผู้บริหารค่ายเพลงฮิปฮอป Def Jam Recordings (เดฟ แจม เรคคอร์ดดิงส์) ค่ายเพลงอเมริกันที่ดูแลศิลปินระดับโลก อาทิ ริฮานนา, เจ-ซี, คานเย เวสต์ ฯลฯ ซึ่งเวย์ ประเดิมเป็นศิลปินคนแรกของค่าย ทำอัลบั้มเดี่ยวปล่อย 2 ซิงเกิ้ล กับ เพลง “วันอะไร” และ“แกงค์ซิท GANG SH!T”

เวย์ ได้เล่าเรื่องราวชีวิตของเขา ตลอดกว่า 17 ปี บนเส้นทางดนตรีฮิปฮอป จาก ไทเทเนี่ยม สู่ DABOYWAY กับทีมข่าว วอยซ์ออนไลน์ การทำงานในรูปแบบกลุ่มและออกงานเดี่ยวค่อนข้างจะแตกต่างกัน ซึ่งการแยกมาทำงานเพลงเดี่ยว เขาได้ประสบการณ์ใหม่ๆ มากมาย และถ่ายทอดตัวตนผ่านงานเพลง

“การออกมาทำงานเดี่ยว ก็โอเคครับ เป็นประสบการณ์ใหม่ แต่เป็นเป้าหมายเก่าๆ เพราะว่าตั้งนานแล้ว อยากมีอัลบั้มเป็นของตัวเอง นอกจากที่จะแร็ปไทย ผมก็ร้องเพลงเป็นภาษาอังกฤษด้วย ผมถนัดภาษาอังกฤษมากกว่า เลยอยากลองใช้เวลากับมันตรงนั้นจนถึงตอนนี้ อัลบั้มเต็มก็ใกล้เสร็จแล้ว มีภาษาไทยครึ่ง ภาษาอังกฤษครึ่ง แตกต่างจากการทำงานกลุ่ม ตรงเราจะเป็นคนคิดคอนเซปต์การผลิต ภาพลักษณ์ต่างๆ ด้วยตัวเอง และมีอิสระทางความคิด มีคนหลายคนเข้าใจผิด คิดว่าที่ผมมาออกงานเดี่ยว ไม่ใช่ไม่ทำงานกับไทเทเนี่ยม ผมยังทัวร์คอนเสิร์ต และทำเพลงกับไทเทเนี่ยมอยู่ ซึ่งพวกเราเพิ่งเข้าห้องอัดเพลงกันไป ในรอบ 2 ปี”

DABOYWAY คือ ตัวตน ทางดนตรีของ เวย์ ทั้ง เรื่องคอนเซ็ปต์เพลง ที่เขาอยากลองทำอะไรใหม่ๆ การร้อง การแร็ป การหาซาวน์ดนตรี ที่แตกต่างจากการเป็น เวย์ ไทเทเนี่ยม โดยเฉพาะเนื้อเพลงที่มีจุดแตกต่าง เพราะเขามีครอบครัว และมีบทบาทความเป็นพ่อของ 'บีน่า' และ 'บรู๊คลิน' 

“จุดแตกต่างที่ชัดๆ คือ เนื้อเพลงภาษาอังกฤษ คือผมเป็นคนเดียวที่มีครอบครัว ความคิดก็อาจจะไม่ได้อยู่หน้าเดียวในบางเรื่อง เป็นการเดินทางของ Daboyway ที่มาจากอเมริกา เพื่อมาอยู่เมืองไทย จนถึงปัจจุบัน”

ซิงเกิ้ลแรก เปิดตัว กับเพลง ‘วันอะไร’ เวย์ บอกว่า เป็นเพลงที่สะท้อนตัวต้นเขามากๆ เพราะเขาเป็นคนที่ชอบและรักที่จะทำงาน สร้างเป้าหมายให้ตัวเอง แล้วพยายามไปให้ถึงในเป้าหมายนั้น ซึ่งบางครั้งทำให้เขาหมกหมุ่นกับสิ่งที่จะทำ จนลืมวันลืมคืน บ่อยครั้งที่เวลาอยู่ในห้องอัดเสียง เวลาที่รู้สึกอินกับการทำอะไร ก็จะมีคำถามว่า ‘วันนี้วันอะไร’ จึงหยิบเรื่องราวมาแต่งเป็นเพลง ซึ่งได้ผลตอบรับอย่างดีจากแฟนเพลง โดยเฉพาะความหมาย ที่หลายคนได้ฉุกคิดตาม

มุมมองในวงการเพลงฮิปฮอป ปัจจุบัน ของ เวย์

ผมมองว่าทั่วโลก ไม่ใช่แค่เมืองไทย หรือ เอเชีย มันเป็นวัฒนธรรมที่ ผมคิดว่าไม่หยุดอยู่กับที่ แต่ตอนนี้ มันถึงเวลาของเมืองไทย เพราะว่าถ้านับจริงๆ แล้ว ฮิปฮอปในเมืองไทย มันอายุประมาณ 18 – 20 ปี วัยรุ่นมาก กำลังเดือดเลย ถ้าเปรียบเป็นคนอายุ 20 ปี อยู่มา 20 ปีแล้ว มีแขนมีขา มีอะไรที่เป็นตัวของตัวเอง พร้อมที่จะไปไกลที่สุด มันเป็นวัฒนธรรม ที่เป็นผู้นำแฟชั่น ผู้นำความคิด การเต้น ทุกสิ่ง แร็ป คือ ความรู้สึก คือการแสดงความเห็น ผมคิดว่า มันเป็นการสะท้อนความคิด มีสิทธิที่แสดงความคิดเห็น มันเป็นเพลงที่เอาเรื่องราวของชีวิตตัวเองมาเล่า ชีวิตเรามันไม่ได้สดใสตลอด ชีวิตมันก็คือคนทั่วไป เขามีปัญหา มีความสุข เขาไม่ชอบอันนี้ยังไง เขามีความคิดยังไง เขารู้สึกว่าชีวิตมีความเท่าเทียมยังไง มันคือการปล่อย ปล่อยเสียงผ่านเพลง ปล่อยผ่านงานศิลปะ กราฟฟิตี้ อะไรแบบนี้

เวย์ ยังฝากถึงศิลปินเพลงแร็ปรุ่นใหม่ อยากให้ทำมันไปเรื่อยๆ ตอนนี้มีกระแส มันง่ายที่จะทำเพลง ใครทำอะไรก็ได้ แต่ถ้าจะอยู่ไปเรื่อยๆ มันไม่ง่าย และอย่าคิดว่าตัวเองรู้ทุกเรื่อง อย่ามั่นใจในตัวเองมากเกินไป ให้ลองเปิดฟังเสียงรอบข้าง