ไม่พบผลการค้นหา
โลกทวิตเตอร์ผุดแฮชแท็ก #กะเทยตีหมา หลังมีคลิปขณะที่สาวข้ามเพศรายหนึ่งกำลังทำร้ายลูกสุนัขพิตบูลสีดำ และ #เตี้ยมช ตามหา 'หมาเซเลบ' แห่งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่หายไปตัวจากจุดที่เคยอยู่ประจำจนนักศึกษาหลายคนเป็นห่วงและต้องออกตามหา

จากกรณีที่ เฟซบุ๊ก มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand - WDT ได้รับการร้องเรียนจากสมาชิกภายในเพจว่า มีหญิงสาวรายหนึ่งทำร้ายสุนัขด้วยการใช้ถุงดินทุ่มใส่ ทำให้สุนัขกลัว ก่อนใช้รองเท้าตีปาก และจับกดน้ำ เป็นการถ่ายเล่นโดยเพื่อนบ้านและเพื่อนเจ้าของ ขณะเจ้าของกำลังโมโหที่เจ้าหมาคุ้ยเขี่ยสวน และกัดรองเท้า ทำให้โลกออนไลน์ทั้งในเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์เกิดความไม่พอใจวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของเจ้าของสุนัข และเรียกร้องให้เจ้าของออกมารับผิดชอบ และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแล

ซึ่งต่อมาแอดมินเพจ มูลนิธิวอชด็อกฯ ได้ลงพื้นที่ไปพบกับเจ้าของสุนัขพันธุ์พิตบูลตัวดังกล่าว ชื่อ "นมเย็น" อยู่ที่คลินิกรักษาสัตว์ กำลังเข้ารับการตรวจสุขภาพ เบื้องต้น นมเย็นมีสุขภาพจิตดี ร่าเริง แข็งแรง ขนเงาสวย โดยเจ้าของนมเย็น เผยว่าตนเองขอแสดงความบริสุทธิ์ใจ และยินดีแม้จะมีคอมเมนต์เข้ามาต่อว่าตน ยอมรับว่าภาพที่ออกไป อาจจะดูรุนแรงแล้วทำให้หลายคนไม่สบายใจ ตนรู้สึกผิด แต่ตนไม่มีเจตนาถ่ายไลฟ์สด และตนไม่รู้ด้วยว่าเพื่อนถ่ายคลิปแล้วนำไปโพสต์

ส่วน นมเย็นนั้น ตนเลี้ยงมาแต่เล็ก และไม่ได้เลี้ยงนอกบ้าน อีกทั้งยังเลี้ยงแมว กับหมาวัดอีก 1 ตัวที่เลี้ยงมาด้วยกัน ซึ่งนมเย็นไม่มีนิสัยดุร้าย และตนเคยเลี้ยงสุนัขพันธุ์พิตบูลมาก่อนแล้ว ทั้งนี้ภาพที่เผยแพร่ไปอาจดูรุนแรง แต่ตนรู้ว่าควรตีตรงไหน จุดไหนอันตรายไม่อันตราย และถุงดินที่ทุ่มใส่นั้นไม่ใช่ถุงดินที่อัดแน่น ตนไม่ได้ฟาดทั้งถุง และรองเท้าที่ใช้ตีเป็นรองเท้านิ่ม เหตุผลที่ตีเพราะเคยพูดปากเปล่าแล้วแต่นมเย็นไม่เชื่อฟังถึงได้ตี

สำหรับภาพการจับกดน้ำนั้น เพื่อนตนเป็นตนทำ และตอนนี้รู้สึกผิดมาก แต่การกดน้ำไม่ได้กดแบบเอาเป็นเอาตาย ทุกคนในบ้านรักนมเย็น โดยยืนยันว่าตกใจที่ภาพเผยแพร่ไปทำให้หลายคนไม่สบายใจ ตนก็ไม่สบายใจตอนนี้ขอปิดเฟซบุ๊กก่อน และขอร้องให้ทุกคนเป็นกลาง ตนอยากขอโทษจริงๆ และได้พานมเย็นมาหาสัตวแพทย์เพื่อตรวจยืนยันว่านมเย็นปลอดภัย ไม่มีอาการบาดเจ็บ และไม่หวาดกลัวตน 

ด้านเพจมูลนิธิวอชด็อกฯ ได้ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับเข้าของนมเย็นแล้ว พร้อมจัดทำสำนวนร้องขอต่อศาลให้เจ้าของสิ้นศักยภาพในการเลี้ยงสัตว์ และยังได้ประสานผู้ว่าราชการจังหวัดและเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทำการอายัดนมเย็นให้มาอยู่ในการดูแลของมูลนิธิจนกว่าคดีจะสิ้นสุดด้วย

ส่วนในโลกทวิตเตอร์ผุดแฮชแท็ก #กะเทยตีหมา พร้อมวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำที่โหดร้ายเกินไปของสาวข้ามเพศรายนี้ ซึ่งหลายคนบอกรับไม่ได้ และไม่กล้ากดดูคลิปที่เผยแพร่อยู่

โลกออนไลน์ตามหา "เตี้ย มช." หลังหายตัวตั้งแต่เมื่อคืน (5 พ.ค.)

เมื่อคืนที่ผ่านมา (5 พ.ค.) เพจเตี้ย มช. โพสต์ข้อความตามหาเตี้ย สุนัขพันธุ์ทาง ที่นักศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัยเชียงใหม่หลายคนรู้จักเป็นอย่างดี เพราะทุกปีในกิจกรรมวิ่งขึ้นดอยเพื่อรับน้องใหม่ของมหาวิทยาลัย เตี้ยจะต้องร่วมวิ่งขึ้นดอยด้วยทุกครั้ง และเตี้ย เป็นเซเลบหมาประจำมหาวิทยาลัยที่ใครๆ ต้องแวะทักทาย 

ซึ่งตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา จนถึงเช้าวันนี้ (6 พ.ค.) เพจดังกล่าวยังโพสต์ตามหาเตี้ย อยู่ โดยแอดมินเพจได้ลองไปตามสถานที่ต่างๆ ที่คาดว่าเตี้ยอาจจะเดินไปอยู่ มีการแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว และติดต่อขอดูกล้องวงจรปิดกับทาง รปภ. มหาวิทยาลัยเพื่อขอดูภาพแล้ว อีกทั้งทางสัตว์แพทย์ได้ประสานเครือข่าย รพ.สัตว์ แล้วเผื่อมีการพาเตี้ยเข้ารักษาจะได้รู้ทันที

ทั้งนี้แอดมินเพจทิ้งท้ายไว้ว่า ถ้ามีใครพาเตี้ยเที่ยวนอกมหาวิทยาลัยขอให้แจ้งด้วย เพราะช่วงนี้เตี้ยมีแผยที่เท้ายังต้องกินยารักษา รวมถึงรักษาเรื่องอาการคันด้วย

ภาพ : เพจเตี้ย มช.